POLITICS

กองทัพเรือ เดินหน้าค้นหากำลังพล 24 นาย คาดลอยคออยู่แถบ อ.ปะทิว จ.ชุมพร

กองทัพเรือ เดินหน้าค้นหากำลังพล 24 นาย หวังพบผู้รอดชีวิตทั้งหมด แม้ผ่านมา 41 ชั่วโมง คาดกำลังพลลอยคออยู่แถบ อ.ปะทิว จ.ชุมพร

วันนี้ (20 ธ.ค.65) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ แถลงความคืบหน้าเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ณ ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ

พล.ร.อ.เชิงชาย เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบกำลังพล 81 ราย จากทั้งหมด 105 ราย ยังไม่พบ 24 ราย โดยวันนี้พบผู้ประสบภัย 6 ราย เสียชีวิต 5 ราย และรอดชีวิต 1 ราย ขณะนี้อยู่ในช่วงค้นหา โดยวันเกิดเหตุ (18 ธ.ค.65) เรือหลวงสุโขทัยปฏิบัติราชการในฐานทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับเรือหลวงกระบุรี มุ่งหน้าไปหาดทรายรี จ.ชุมพร นำกำลังพลไปถวายพระเกียรติงาน 100 ปี กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ด้วยเรือหลวงกระบุรีไม่สามารถทิ้งสมอที่หาดทรายรีได้ จึงขอวกกลับไปจอดที่ท่าเรือบางสะพาน ขณะที่เรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุมรสุม คลื่นลมแรง 3-4 เมตร ทราบข้อมูลเท็จจริงว่า มีน้ำเข้าเรือปริมาณมาก เข้าไปยังหัวเรือ ส่งผลต่อระบบไฟฟ้า แม้จะพยายามใช้เครื่องสูบน้ำ แต่ไม่สามารถสูบออกทันกับน้ำที่เข้ามา ทำให้น้ำเข้าเรือเรื่อย ๆ

เมื่อเรือไม่สู้น้ำทะเล จึงใช้วิธีผนึกน้ำ ให้ตัวเรือลอย แต่ยังไม่สามารถบังคับเรือ เพราะเครื่องยนต์ซ้ายดับ เครื่องควบคุมใบจักรไม่ทำงาน น้ำท่วมทำให้เครื่องไฟฟ้าดับทั้งหมด เรือลอยลำกลางทะเล และเอียงตามคลิปข่าว เรือหลวงสุโขทัยร้องขอไปที่กองทัพเรือภาคที่ 1 สนับสนุนกำลังช่วยเหลือ ประสานเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพล เรือดำน้ำ 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ เพื่อกำหนดกระบวนที่

ขณะนั้นน้ำเริ่มคงที่ เรือเอียง 60 องศา พร้อมติดต่อท่าเรือบางสะพานและท่าเรือใกล้เคียง ขอสนับสนุนเรือช่วยเหลือ 2 ลำ ลากเข้าท่าเรือบางสะพาน ระหว่างนั้นเรือหลวงกระบุรี พยายามเข้าใกล้ เรือหลวงสุโขทัยก็พร้อมสละเรือใหญ่

ด้านกองทัพเรือ คาดหวังจะส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ไปช่วยสูบน้ำออกจากตัวเรือ เพื่อให้เรือคงสภาพ แต่ไม่สามารถทำได้ และไม่สามารถลำเลียงคนออกมาจากเรือหลวงสุโขทัยได้ เมื่อเรือทัก (Tug Boat) มาถึง พบเรือหลวงสุโขทัยเอียงมากขึ้น จมจากด้านท้าย กำลังพลกดแพอัตโนมัติให้กำลังพลที่ไม่มีชูชีพ กำลังพลบางส่วนโดนคลื่นซัด ลอยคอกลางทะเล เรือหลวงกระบุรีส่งบันไดลิง และเรือขนาดเล็ก ทำให้สามารถช่วยกำลังพลบางส่วนได้ บางส่วนที่มีบาดแผลฉกรรจ์ ลำเลียงส่งโรงพยาบาลบางสะพาน

ผู้บัญชาการกองทัพเรือ กล่าวต่อว่า ในเรือรบปกติ มีเสื้อชูชีพ เสื้อชูชีพสำรอง อุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ เรือหลวงสุโขทัยทราบปัญหาดีว่า มีเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพล 30 นายที่เพิ่มเข้ามา บางรายต้องใช้ห่วงยาง และอุปกรณ์เกาะ ช่วยพยุงตัว ทั้งนี้บนเรือมีแพชูชีพอัตโนมัติ จำนวน 6 แพ จุคนได้ 15 คน หากเรือใกล้จม กำลังพลวางแผนจะกดแพอัตโนมัติ และย้ายคนออกจากเรือ โดยกำลังพล 30 คนที่ไม่มีเสื้อชูชีพ ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 18 คน ส่วน 12 คนยังลอยอยู่ในทะเล

ขอชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุกองทัพเรือ รายงานข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับขั้นไปจนถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังนั้นข้อมูลที่ระบุว่า เสื้อชูชีพไม่เพียงพอกับกำลังพลที่มาเพิ่ม จะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงตามกฏหมาย โดยไม่มีการปกปิด ทั้งนี้จะจัดสถานที่ให้ญาติของกำลังพลที่ยังสูญหาย ได้รอเฝ้าติดตามการค้นหา และตั้งศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือส่วนหน้า ที่ท่าเรือบางสะพาน ซึ่งเปิดศูนย์แล้วตั้งแต่วันนี้ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น เพื่อนำกำลังพลทุกนายกลับบ้าน ยืนยันว่า กองทัพเรือทำทุกอย่างเต็มความสามารถ

สำหรับแผนการกู้เรือ ได้เตรียมการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบแล้ว เพราะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ สั่งการไปที่กองเรือทุ่นระเบิด เพื่อประเมินสภาพเรือหลวงสุโขทัย ทราบว่า เรือจมความลึกประมาณ 40 เมตร เบื้องต้นกำหนดจุดไว้แล้ว อยู่ระหว่างการหาวิธีกู้เรือต่อไป

เสนาธิการทหารเรือ กล่าวถึงแผนการค้นหาผู้สูญหาย ว่า จะใช้โปรแกรมคำนวณอัตโนมัติ เพื่อคำนวณไทม์ไลน์ ทิศทางกระแสน้ำ ความเร็วลม ระยะเวลา และระยะทางที่ผู้ประสบภัยจะลอยไป ปัจจุบันแบ่งพื้นที่ค้นหา 11 พื้นที่ ค้นหาจากจุดเกิดเหตุ มุ่งหน้าไปทางใต้ คาดว่าผู้ประสบภัยจะลอยคออยู่ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร

หลักเกณฑ์การเยียวยาจะดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งรายชื่อของผู้สูญเสียมีหลายชั้นยศ จะได้รับการชดเชยปูนบำเหน็จตามระเบียบราชการ เลื่อนชั้นยศ 5 ชั้นยศ เช่น ถ้ามีการสูญเสียในชั้นยศนาวาตรี จะได้เลื่อนชั้นยศเป็นระดับพลเรือโท ถ้าเป็นระดับนายเรือจะได้รับการเลื่อนยศ เป็นนายนาวา ขณะเดียวกันจะได้รับเงินชดเชยที่กองทัพเรือทำไว้ในกองทุนน้ำใจไทย เงินชดเชยตามระเบียบราชการประมาณ 1-2 ล้านบาท แล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคล ทั้งนี้กองทัพเรือจะให้การดูแลเรื่องสิทธิกำลังพลของผู้สูญเสียอย่างเต็มที่

พล.ร.อ.เชิงชาย ทิ้งท้ายว่า จะเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายต่อไป ยังมีความคาดหวังว่า จะพบผู้รอดชีวิตทั้งหมด เมื่อเทียบกับกรณีที่ชาวประมงลอยคออยู่กลางทะเลนาน 60 ชั่วโมง ตอนนี้อยู่ห่างจากเวลาเกิดเหตุ 41 ชั่วโมง เราจะใช้เวลาทุกนาทีที่มีค่าค้นหาทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนเรศวร อากาศยาน 2 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ 1 เครื่อง ของกองทัพอากาศ จนกว่าจะพบกำลังพลทั้ง 24 คน

Related Posts

Send this to a friend