‘อภิสิทธิ์’ เร่งเฟ้นผู้สมัคร สส.เหตุต้องทำงานแข่งกับเวลา
‘อภิสิทธิ์’ เร่งเฟ้นผู้สมัคร สส.เหตุต้องทำงานแข่งกับเวลา บอกผมทำการเมืองสุภาพบุรุษ เข้าใจได้หลังบางคนไม่ร่วมงานต่อ เสียดายนักการเมืองเหมือนอยู่คนละโลกกับ ปชช.
วันนี้ (20 ต.ค. 68) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคนัดแรก โดยเรื่องหลักที่ได้พูดคุยกันในวันนี้ คือ เรื่องนโยบาย เพราะสิ่งที่สําคัญที่สุดในการทํางานของกรรมการบริหารพรรคชุดนี้คือ ต้องสร้างความหวังให้กับประชาชนให้ได้ ซึ่งเรายืนยันว่ามีสิ่งดี ๆ และความคิดดี ๆ มากมาย วันนี้ประเทศไทยจะยังทําไม่ได้ถ้าเศรษฐกิจไม่โต เศรษฐกิจไทยติดหล่มมานานแล้ว เพราะฉะนั้น แนวคิดที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต ซึ่งจะเกี่ยวพันไปถึงการยกเครื่องภาคการเกษตร การทําให้เศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว หรือเศรษฐกิจดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำ ลดการผูกขาด จะเป็นเรื่องที่เราเร่งผลักดัน โดยได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งมีการตั้งโจทย์ไปแล้วว่าประเทศไทยต้องการอะไรจากพรรคการเมือง ทั้งนี้กระบวนการจัดทำนโยบายดังกล่าวนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้รับผิดชอบ
นอกจากนี้ได้พูดคุยเรื่องการเตรียมตัวผู้สมัคร เนื่องจากมีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงและต้องทํางานแข่งขันกับเวลา พรรคประชาธิปัตย์เคร่งครัดเรื่องการทําตามกฎระเบียบและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัคร ดังนั้นในวันนี้ได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าคณะกรรมการสรรหาที่จะต้องมีการประชุมเลือกประธาน ทํางานกับรองหัวหน้าตามภูมิภาค และบรรดาสาขาตัวแทนจังหวัดของพรรคทันที
ตนเองใช้เวลาในช่วงประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พูดคุยกับบุคลากรของพรรคเยอะ มี สส.หลายท่านที่ให้การสนับสนุนผมเมื่อวันเสาร์ พูดกับผมมาก่อนวันเสาร์แล้วว่าท่านอาจจะไม่ได้ร่วมงานกับตนเองต่อ ซึ่งตนเองก็เข้าใจข้อเท็จจริงทางการเมือง เพียงแต่เราก็ต้องพยายามให้ดีที่สุด เพราะเมื่อมาตั้งต้นกันใหม่วันนี้ก็พยายามที่จะพูดคุย และเราพยายามจะรักษาบุคลากรทางการเมืองของเราทุกคน แต่ธรรมชาติของการเมือง เมื่อมีการไปพูดคุย หรือเจรจาอะไรกัน ตนเองเข้าใจได้ เพราะผมก็ทํางานการเมืองแบบสุภาพบุรุษ เข้าใจดีว่าบางทีใครไปตกลงอะไรไว้ เราเห็นใจและเข้าใจเขา
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นอุปสรรค เราคิดเพียงอย่างเดียวว่าเราจะนําเสนอทางเลือกให้กับประชาชนทั้งนโยบายและบุคลากรให้ดีที่สุด ท่ามกลางข้อจํากัดด้านเวลา อย่างไรก็ตาม ยังมีการมอบหมายงานด้านต่าง ๆ ด้วย รวมถึงบุคลากรที่เรามีการทาบทามไปนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องมิติสังคม สิ่งแวดล้อม ความเป็นธรรม หรือแม้กระทั่งเรื่องการเมือง เช่น สิ่งที่ฉุดรั้งบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก ก็เพราะเรามีการคอร์รัปชั่นมาก ซึ่งทําให้มีกฎเกณฑ์มากตามมา จนธุรกิจเดินไม่ได้
สิ่งเหล่านี้จะต้องเป็นสิ่งที่ร้อยเรียงกันทั้งหมด เศรษฐกิจไทยจะโตไม่ได้ ถ้าเราไม่สามารถเพิ่มพูนทักษะให้กับคน ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก เศรษฐกิจจะโตได้ การเมืองก็ต้องดี การศึกษาก็ต้องดี รวมถึงมิติอื่น ๆ ด้วย
เมื่อสื่อมวลชนถามว่า การกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการให้ความหวังใหม่กับประชาชนในการเป็นอีกตัวเลือกใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองอยู่แล้ว ตนเองรู้สึกเสียดาย เพราะในช่วงหลัง นักการเมืองเหมือนอยู่กันคนละโลกกับประชาชน ข่าวการเมืองที่เราเห็นทุกวันนี้ ดูแล้วไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับประชาชน
ตนเองต้องการทําให้การเมืองเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาให้กับประชาชน และอยากขอความร่วมมือให้มาคุยกันเรื่องที่เป็นปัญหาของประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตเขาจริง ๆ นั่นคือหน้าที่ของการเมือง ไม่ใช่เรื่องการมาเล่นเกมต่อรอง แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
