POLITICS

‘สุเทพ’ ลั่นเป็น ‘แพะ’ มา 10 ปี หากยกฟ้องก็จะได้ศักดิ์ศรีคืนมา ถ้าไม่รอดก็ก้มหน้ารับกรรม

‘สุเทพ’ เปิดใจก่อนลุ้นศาลฎีกาฟันทุจริตโรงพักร้าง ลั่นเป็น ‘แพะ’ มา 10 ปี หากยกฟ้องก็จะได้ศักดิ์ศรีคืนมา ถ้าไม่รอดก็ก้มหน้ารับกรรม ยันปิดฉากทางการเมืองนานแล้ว ด้านแกนนำ กปปส.-ปชป. โผล่พรึบ

วันนี้ (20 ก.ย. 65) บริเวณด้านหน้าที่ทำการศาลฎีกา ถนนราชินี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เวลา 08:15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางมาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามนัดหมายอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำ อม.22/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ และพวก กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดเเทน 396 แห่งทั่วประเทศ

นายสุเทพ กล่าวเปิดใจกับสื่อมวลชนก่อนฟังคำพิพากษาว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันที่สำคัญมากสำหรับชีวิต เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในกรณีของการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง ในช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยนั้น โดยมีคู่แข่งทางการเมืองยกขึ้นมาโจมตี เพราะตอนนั้นสถานีตำรวจยังสร้างไม่เสร็จ ก็เลยให้ตัวเองเป็น “แพะ” ซึ่งคนที่เป็นตัวตั้งตัวตี คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ออกมาแถลงข่าวดำเนินคดีกล่าวหาว่าฮั้วประมูล

นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า จากการกล่าวหาของนายธาริต ต่อมาก็มีการดำเนินการสอบเฉพาะส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งทั้งหมดใช้ระยะเวลาประมาณ 7 ปี จะส่งสำนวนให้กับอัยการเพื่อฟ้องคดี แต่อัยการไม่เห็นด้วยกับสำนวนของ ป.ป.ช. ตอนนั้น ความเห็นของอัยการคือเราไม่มีความผิด จึงต้องมีการตั้งกรรมการร่วมและมีการถกเถียงกัน 1 ปี สุดท้าย ป.ป.ช. ก็เลยเดินหน้าฟ้องเอง

นายสุเทพ ย้ำว่า ได้ต่อสู้เพื่อดำเนินคดีด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง พยานหลักฐานทางพยานบุคคลและตัวกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้กระทำความผิดตามที่ได้มีการกล่าวหากัน ส่วนศาลจะพิพากษาอย่างไร ก็จะขอเคารพศาล และเคารพอำนาจอธิปไตยตุลาการ ที่เป็นหลักของบ้านเมือง เป็นที่พึ่งของประชาชน

“ไม่ว่าคนจะพิพากษามาตัดสินคดีจะเป็นอย่างไร ผมก็น้อมรับ ผมก็ได้ต่อสู้ตามขบวนการที่จะทำอย่างเต็มที่แล้ว”

นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า มั่นใจว่าได้ทำคุณงามความดีกับส่วนรวมให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด ข้อกล่าวหาว่าทุจริต มีมาหลายปี วันนี้หากพิพากษายกฟ้องไม่ลงโทษ ก็จะได้เกียรติยศ ได้ศักดิ์ศรี คืนกลับมา แต่ถ้าโชคร้าย ก็ก้มหน้าก้มตารับกรรมไป

ผู้สื่อข่าวถามต่อเนื่องไปว่า หากศาลพิพากษาในเชิงลบ จะถือเป็นการปิดฉากตัวเองทางการเมืองหรือไม่นายสุเทพ ตอบว่า ปิดมานานแล้ว ถ้าผ่านกระบวนการของศาลยุติธรรมแล้วกลายเป็นผู้ผิดก็ต้องยุติ ส่วนจะนำหลักฐานใหม่ยื่นต่อสู้อุทธรณ์หรือไม่นั้น นายสุเทพ ตอบว่า คงไม่มีหลักฐานอะไรใหม่มากกว่านี้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าอะไรที่เป็นพยานหลักฐานข้อเท็จจริงก็ได้นำเสนอครบถ้วนแล้ว จึงถือว่าคดีนี้ควรจะจบได้แล้ว

นายสุเทพ ย้ำว่า หลังการคดีระยะเวลา 10 ปีก็ได้พยายามชี้แจงทั้งในช่องทางเฟซบุ๊กมาโดยตลอด การที่ ป.ป.ช. กล่าวหาย้ำมาตลอด 10 ปี คนก็คิดไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนทำ หลังจากนี้ก็น่าจะสบายใจขึ้น

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. มาร่วมติดตามคดีที่ศาลฎีกาในช่วงเช้าวันนี้ด้วย อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นางทยา ทีปสุวรรณ นายสกลธี ภัททิยกุล นายถาวร เสนเนียม นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล และนายชุมพล จุลใส

เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : ธนาภรณ์ วุฒิสนธิ์

Related Posts

Send this to a friend