‘ชิตวัน’ ชี้ OCA ยกเลิกไทยเป็นเจ้าภาพเอเชียนอินดอร์เกมส์ ชภาพลักษณ์ระยะยาวเสียหาย
‘ชิตวัน’ ชี้ OCA ยกเลิกไทยเป็นเจ้าภาพเอเชียนอินดอร์เกมส์ งบประมาณ-ภาพลักษณ์ระยะยาวเสียหาย ถามรัฐบาลให้ความสำคัญจริงหรือไม่ หลังการทำงานช่วงรอยต่อ 2 รัฐมนตรีขาดความต่อเนื่อง หวังรัฐบาลส่งเสริมวงการกีฬา ไม่ใช่ให้รางวัลเมื่อประสบความสำเร็จ
วันนี้ (20 ส.ค. 67) ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย เขต 1 พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ออกแถลงการณ์ยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ของประเทศไทย เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาเจ้าภาพได้ภายในเวลาที่กำหนด
ชิตวัน กล่าวว่า เคยอภิปรายตั้งคำถามเรื่องนี้เมื่อเดือนมกราคมปี 2567 เพราะเห็นว่ามีการเลื่อนจัดมาแล้วถึง 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดกำหนดจัดเดือนพฤศจิกายน 2567 แต่กลับยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องงบประมาณ เนื่องจากช่วงรอยต่อระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนก่อนและคนปัจจุบัน โดยผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยเคยเปิดเผยว่าในยุคของ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ได้ประชุมไปแล้วเรื่องงบประมาณและแผนงานต่าง ๆ แต่รัฐมนตรีคนปัจจุบันยังไม่ได้ประชุมกัน จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ เป็นเหตุให้ถูกยกเลิก ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบ 2 ส่วนใหญ่
1.งบประมาณ เงินเก็บตัวนักกีฬาที่มาจากงบประมาณแผ่นดิน ตั้งไว้ 980 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปเเล้ว 800 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2564 ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และงบประมาณที่เดิมรัฐบาลวางไว้ว่าจะใช้ในการเป็นเจ้าภาพงานนี้จะเอาไปทำอะไรต่อ รวมถึงการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รัฐบาลดำเนินการไปแล้วหรือไม่
2.ภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อการจัดแข่งขันกีฬานานาชาติ เอเชียนอินดอร์เกมส์เป็นหนึ่งในงานที่หากไทยสามารถจัดการแข่งขันได้ จะช่วยเป็นบันไดให้มีแต้มต่อมากขึ้นในการจัดการแข่งขันระดับที่ใหญ่กว่านี้ เช่น เอเชียนเกมส์ หรือการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโลก
ชิตวัน กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ต้องตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่าให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาด้านกีฬาจริงหรือไม่ ที่เคยบอกจะขับเคลื่อนกีฬาเป็นซอฟต์พาวเวอร์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับการจัดการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ สะท้อนการทำงานที่วางแผนไม่รัดกุม อาจทำให้ประเทศต้องเสียงบประมาณ เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ยังไม่รวมโอกาสของนักกีฬาที่ต้องสูญเสียไป
“หน้าที่ของรัฐบาลในการส่งเสริมวงการกีฬา ไม่ใช่แค่การชื่นชมให้รางวัลเมื่อนักกีฬาประสบความสำเร็จคว้าเหรียญคว้าถ้วย แต่คือการวางแผนระยะยาวอย่างมีเป้าหมาย คำนึงถึงประโยชน์ที่ทุกฝ่ายจะได้รับ ที่ผ่านมารัฐบาลและรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่นี้ของตัวเองดีเพียงพอแล้วหรือไม่ ภายใต้นายกฯ คนใหม่ ครม.ชุดใหม่ หวังว่าเราจะได้รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาที่มีความรู้ความเข้าใจ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการ ไม่ใช่มาด้วยการจัดสรรตำแหน่งแบบสมบัติผลัดกันชม ทำงานขาดความต่อเนื่องเพราะต้องคอยเปลี่ยนตัวตอบสนองความพึงพอใจทางการเมืองของคนในรัฐบาลกันเอง” ชิตวัน กล่าว