สภาฯ รับทราบศาล รธน.สั่ง ‘พิธา’ ยุติปฏิบัติหน้าที่
สภาฯ รับทราบศาล รธน.สั่ง ‘พิธา’ ยุติปฏิบัติหน้าที่ ขณะ สส.ก้าวไกล ยืนยันยังมีสถานะแคนดิเดตนายกฯ ครบถ้วนสมบูรณ์ เสนอชื่อต่อรัฐสภาได้ แย้มมีช่องทาง ตามข้อบังคับข้อ 41 ให้ประธานรัฐสภาพิจารณา เมื่อมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่การประชุมในวันนี้ (20 ก.ค. 66) มีวาระสำคัญในการพิจารณารับทราบรายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินปีงบประมาณ 2564 ขององค์กรอิสระ 3 องค์กรได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต., สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน
ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายปดิพัทธ์ ได้แจ้งคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมเป็นต้นไป หลังรับคำร้อง กกต. ให้วินิจฉัยคดีการถือครองหุ้น ITV ของนายพิธา จึงทำให้องค์ประชุมของสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้มีทั้งสิ้น 499 คน องค์ประชุมครึ่งหนึ่งอยู่ที่ 250 คน
จากนั้น นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุม ย้ำด้วยว่า กรณีของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีของนายพิธานั้น ยังไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายพิธานั้นกระทำผิด หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นตามหลักการของกฎหมาย ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน ศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ไม่มีใครทราบ ซึ่งการเลือกนายกฯ นั้นรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 และมาตรา 272 ดังนั้น นายพิธาจึงมีสถานะครบถ้วน สมบูรณ์ ทุกประการที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ต่อรัฐสภา
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พยายามจะพูดกับที่ประชุมรัฐสภา เมื่อ19 กรกฏาคม แต่ไม่มีโอกาส คือ ข้อบังคับการประชุมข้อ 41 วรรคท้าย กำหนดให้ ประธานรัฐสภาพิจารณาต่อได้ หากมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นผมขอยืนยันความสมบูรณ์ครบถ้วนต่อสภาฯ ว่า นายพิธา สามารถเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ของประเทศไทย คนไทยทุกคนไม่เฉพาะคนที่เลือกพรรคก้าวไกลเท่านั้น
