‘วันนอร์’ เชื่อ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ คัดคนเหมาะสมนั่งประธานาสภาฯ

‘วันนอร์’ เชื่อ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ คัดคนเหมาะสมนั่งประธานาสภาฯ มองแม้จะอ่อนพรรษาก็ไม่เป็นปัญหา

วันนี้ (20 มิ.ย. 66) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังรับหนังสือรับรอง ส.ส.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ขอขอบคุณ กกต.และประชาชนที่ให้กำลังใจ โดยความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน และการกำหนดนโยบายร่วมกันได้ทำไปมากถึง 7-8 ด้านแล้ว ส่วนข้อตกลงใน MOU จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนแถลงนโยบายต่อสภาฯ โดยการพูดคุยระหว่างหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรคในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ จะเป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้ากรณี กกต.รับรอง ส.ส. ส่วนกรณีประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต้องพูดคุยกัน และรายงานต่อหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค

สำหรับแนวทางในการพูดคุยจะเป็นการตกลงกันว่า พรรคใดจะเป็นประธานสภาฯ พรรคใดจะเป็นรองประธานสภาฯ เชื่อว่าทั้งสองพรรคคงมีตัวบุคคลแล้วและเชื่อมั่นว่าจะคัดคนที่เข้ามาทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะประธานสภาฯ ต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมีความรู้ความสามารถซึ่งจะทำให้งานคืบหน้าไปได้ด้วยดี โดยมีงานอีกมากมาย เช่น การแก้ไขกฎหมาย การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากคนที่จะเป็นประธานสภาฯ อ่อนพรรษา จะเป็นปัญหาในการควบคุมที่ประชุมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า อ่อนพรรษาหรือแก้พรรษาเกี่ยวข้องน้อยมากเพราะอยู่ที่บุคลิกของคนที่จะเป็นผู้นำ ประธานสภาฯ จะต้องศึกษาข้อบังคับกฎหมายให้แม่นยำ และตัดสินบนพื้นฐานในการให้โอกาสสมาชิกได้แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งรักษาข้อบังคับของสภาฯ โดยยกตัวอย่างนายอุทัย พิมพ์ใจชน ที่เป็นประธานสภาฯ ขณะอายุ 30 ปี ซึ่งสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนโผคณะรัฐมนตรีจะเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันในขั้นตอนต่อไปหลังเรื่องประธานสภาฯ จบลง ซึ่งจะต้องจัดตำแหน่งให้ลงตัวเหมาะสมกับกระทรวง และเหมาะสมกับนโยบายที่ 8 พรรคมี

เมื่อถามว่าพรรคประชาชาติมองกระทรวงใดไว้บ้าง นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า พรรคประชาชาติเป็นพรรคเล็กจะต้องหารือกันเราจะอยู่ตรงไหนก็ได้ ที่สามารถขับเคลื่อนในสิ่งที่เห็นว่ามีความสามารถที่จะทำได้ เพราะเราเข้าไปทำงานไม่ได้ไปหาผลประโยชน์