‘ชวน’ รอฝ่ายกฎหมายตรวจสอบญัตติซักฟอกหลัง ‘สุชาติ’ โวยถูกยัดไส้
‘ชวน’ รอฝ่ายกฎหมายตรวจสอบญัตติซักฟอกหลัง ‘สุชาติ’ โวยถูกยัดไส้ แจงฝ่ายค้าน เพิ่ม-ลดชื่อได้ก่อนส่งประธานฯ ยืนยันความเห็น ตร.สภา ต้องการเครื่องแบบใหม่ ชี้ มีบทเฉพาะกาลใช้ชุดเดิมได้จนครบอายุชุดปัจจุบัน
นายชวน หลีกภัย ประธาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรียกร้องขอให้ตรวจสอบความถูกต้องของญัตติการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่อ้างมีการเพิ่มชื่อ ภายหลัง ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าชื่อเสนอเปิดญัตติเสร็จสิ้นว่า ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และรอการสรุปการตรวจสอบกลับมา พร้อมอธิบายขั้นตอนว่า โดยปกติแล้ว เป็นสิทธิของผู้ยื่นญัตติที่จะมีการเพิ่มชื่อ หรือจะตัดชื่อผู้ใดออกจากญัตติ ก่อนที่จะมีการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และตามกระบวนการการตรวจสอบความถูกต้องของญัตตินั้น โดยปกติ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็น ส.ส. และหากมีข้อสงสัย ก็จะสอบถามกลับไปยังผู้นำฝ่ายค้านฯ ในฐานะที่เป็นเจ้าของญัตติ และที่ผ่านมา ก็ยังไม่เคยเรื่องในทำนองนี้เกิดขึ้น
นายชวน ยังย้ำขอให้รอการตรวจสอบความถูกต้องของญัตติที่จะต้องเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบภายในสัปดาห์นี้ และหากไม่พบปัญหา ก็จะบรรจุญัตติเข้าสู่วาระการประชุม พร้อมจะเชิญวิป 3 ฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และผู้แทนคณะรัฐมนตรี มากำหนดวันการเปิดอภิปรายที่เหมาะสม โดยคาดว่า จะสามารถเปิดการอภิปรายได้ หลัง 18 กรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งจะต้องพิจารณาความพร้อมของรัฐบาลในการมาชี้แจงด้วย
ขณะเดียวกัน นายชวน ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่รัฐสภาการสั่งตัดชุดตำรวจรัฐสภาใหม่ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เนื่องจากชุดที่ใส่อยู่ปัจจุบันใช้ได้เพียง 6 เดือนว่า เป็นเรื่องความประสงค์ของตำรวจ แต่ความเห็นนั้นก็ไม่ได้ 100% เพราะมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย และทราบว่า ฝ่ายการเมือง ก็จะช่วยกันเรี่ยไรเงินเพื่อตัดเครื่องแบบด้วย เพราะมีการสอบถามความเห็นว่า ส่วนใหญ่ต้องการอย่างไร เพราะจะสั่งเปลี่ยนโดยพละการไม่ได้ และยอมรับว่า เป็นภาระค่าใช้จ่ายของตำรวจรัฐสภา ดังนั้น จึงมีบทเฉพาะกาลว่า จะใช้ชุดเดิมจนกว่าจะครบอายุของชุดปัจจุบัน
ทั้งนี้ พวกเราคงไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ในสภาฯ บางฝ่าย ฝ่ายการเมืองเขาช่วยออกให้ อย่างเสื้อนอกสีน้ำเงิน ของตำรวจสภาฯ ไม่ได้ใช้เงินส่วนตัว แต่เป็นฝ่ายการเมืองช่วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องภายใน และก็เตือนให้เขาซักบ้างเพราะมีอยู่ตัวเดียว แต่เรื่องด่วนเราก็คิดว่าจำเป็นใช้ แต่คงไม่ทันในยุคผม จึงได้มีบทเฉพาะกาลไว้ ให้วาระตนพ้นไปแล้ว