POLITICS

‘อนุทิน’ นำทีมไทยแลนด์ เยือน ‘ปารีส’ เสนอ ดัน ‘ภูเก็ต’ ชิงเจ้าภาพ Expo 2028

‘อนุทิน’ นำทีมไทยแลนด์ เยือน ‘ปารีส’ เสนอ ดัน ‘ภูเก็ต’ ชิงเจ้าภาพ Expo 2028 วางเป้า สร้างงาน สร้างอาชีพ โกยเม็ดเงินเข้าประเทศ 4.9 หมื่นล้าน

วันนี้ (20 มิ.ย. 65) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ปารีส เลอ กร็อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะประกอบไปด้วย นายธนา เวสโกสิทธิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส, นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสสปน., นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ฯลฯ เข้าร่วมงานประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 170 (BIE 170th General Assembly) เพื่อนำเสนอความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 – Phuket, Thailand ภายใต้หัวข้อ Future of Life : Living in Harmon มีประเทศสนใจสมัครเข้าแข่งขันเป็นเจ้าภาพ 5 ประเทศ ไดัแก่ ประเทศไทย (ภูเก็ต) สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา เซอร์เบีย และสเปน โดยวันนี้ เป็นการเสนอรูปแบบการจัดงาน ความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ให้สมาชิกที่มีสิทธิ์โหวต 171 ประเทศ รับฟังข้อมูลของภูเก็ต โดยจะมีการตัดสินในเดือนมิถุนายน 2566

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า คณะทำงานทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เพื่อนำเสนอเหตุผลที่ไทยควรได้จัดงานนี้โดยจังหวัดภูเก็ต มีทั้งความสวยงามตามธรรมชาติ เป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยว มีระบบสาธารณูปโภคที่ยอดเยี่ยม เมื่อมาบวกกับประสิทธิภาพด้านการสาธารณสุข ที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ติด 1 ใน 5 ของโลก    มูลค่าตลาดของ Wellness Tourism ของไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน Joint Commission International (JCI) เป็นอันดับ 4 ของโลก และมากที่สุดในอาเซียน โดยมีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญทุกด้าน 

รวมถึงการบริการที่รวดเร็ว และราคาสมเหตุสมผล ล่าสุด ประเทศไทยเพิ่งได้รับเลือกจากชาติอาเซียน ในการตั้งสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียน ด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่( ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED)  ไปจนถึงการที่ไทย ยังมีศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงอายุอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม (ASEAN Centre for Active Aging and Innovation : ACAI)  เราคือศูนย์กลางด้านการรักษาสุขภาพในระดับโลก โครงสร้างพื้นฐานเรามีความพร้อมที่จะจัดงานขนาดใหญ่ 

ทั้งระบบการติดต่อสื่อสาร ระบบการคมนาคมขนส่ง และสาธารณูปโภคพื้นฐาน หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราได้รับเลือกให้จัดงานนี้ มั่นใจว่า จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 4.9 หมื่นล้านบาท ชื่อเสียงของภูเก็ต และประเทศไทย จะโด่งดังไปทั่วโลก เราผลักดันเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถแน่นอน 

ด้าน นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขานุการนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยบรรยาการในงานประชุม ระบุว่า “ไม่มีคำว่าเหนื่อย” 

“ทีมไทยแลนด์ ลุยเต็มที่” ทันที ที่ท่านรองนายกฯ อนุทิน เดินทางถึงกรุงปารีส ท่านก็เข้าประชุมกับทีมสสปน. และทีมจังหวัดภูเก็ต ทำการซักซ้อมทันที ดูทุกรายละเอียด ดีเทลของการนำเสนอรอบสุดท้าย ไม่มีคำว่าเจ็ทเเล็ก เพราะมีอีก 4 ชาติที่เสนอตัวแข่งกับเรา และเป็นปีที่มีประเทศสนใจเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมากที่สุด

เพื่อให้มั่นใจว่าทีมไทยแลนด์พร้อมที่สุดสำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนจะเข้าสู่สนามจริง เราแต่ละคนต่างรวมพลัง และทำอย่างสุดความสามารถ งานนี้เราพลาดไม่ได้ ต้องขอบคุณการซ้อม และการเตรียมงานของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประเทศไทยทำออกมาได้ดีไม่มีติดขัด ผมให้คะแนนความพร้อมเรา 10 เต็ม 10 

การนำเสนอครั้งนี้ ท่านรองนายกฯ ทุ่มแรงเต็มร้อย เพราะมันจะไม่ใช่แค่การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานทั่วไป แต่มันเป็นความหวังของคนภูเก็ต ของประเทศชาติ และของประเทศในอาเซียน เราเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ได้รับโอกาสนี้ให้มานำเสนอ หลังจากหลายประเทศต่างเผชิญจุดมืดมนของผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

วันนี้ วันที่ประเทศไทยเราควบคุมการระบาดได้ดี จนได้รับคำชมจากWHO และผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเราได้เป็นจุดศูนย์กลางการจัดตั้งศูนย์กลางทางด้านสาธารณสุขของอาเซียนถึง 2 ศูนย์ (ศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ และ ศูนย์สมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)เพื่อผู้สูงอายุที่มีศักยภาพและนวัตกรรม) 

เพราะฉะนั้นการที่จะได้เป็นเจ้าภาพการจัดงาน  Expo 2028 วาระพิเศษ ที่ภูเก็ตนี้ ซึ่งเป็นงานมหกรรมระดับโลกภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Bureau International des Expositions (BIE) นอกจากไทยจะได้ประโยชน์มากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรม การท่องเที่ยว แล้ว ยังเป็นการยกระดับจังหวัดภูเก็ต สู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก 

โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางเข้าร่วมงานมากกว่า 9 ล้านคน ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 100 กว่าประเทศทั่วโลก จะสร้างเงินสะพัดระหว่างการจัดงาน 4.9 หมื่นล้านบาท และสร้างงานมากกว่า 110,000 อัตรา

หลังเสร็จสิ้นการประชุมนำเสนอ

ท่านรองฯ บอกกับทีมงานว่า 

“เราทำได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีขาดตกบกพร่อง สมชื่อทีมประเทศไทย ขอบคุณทุกท่านที่ลุยกันมา จนเราเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกวัน” 

ท่านฯอนุทิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม แววตาแสดงความมั่นใจ 

ที่มา: https://www.facebook.com/100003633998169/posts/pfbid02JKUnsjVgWhTkM2aWM8NX1NTydHRjvAG5T8nsfHTNZ29PCv2qweSwmp9DbGdWgL42l/

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ตัวแทนประเทศไทย ได้เน้นย้ำบทบาทของประเทศไทยในด้าน Medical Hub  เนื่องจากสถานที่จัดงานเป็นโครงการ Medical Plaza ของ รพ.วชิระภูเก็ต เบื้องต้น ระยะเวลาการจัดงาน กำหนดไว้ในช่วงเดือน มีนาคม – มิถุนายน 2571 คาดว่าจะมีผู้เดินทางเข้ามาราว 4-9 ล้านคนเพื่อเข้าชมพาวิลเลียนกว่า 170 ประเทศที่มาออกบูท 

ในส่วนของภาครัฐ หากจังหวัดภูเก็ตได้รับเลือก จะมีการยกระดับระบบสาธารณูปโภค เพื่อรองรับผู้ร่วมงาน ประกอบไปด้วยการจัดสร้างหอประชุมขนาด 20,000 ตรม. ขึ้นไป รวมไปถึงการให้บริการรถไฟรางเบา ถนนคู่ขนานสนามบินเกาะแก้ว ถนนเกาะแก้วกะทู้ อุโมงค์กะทู้ป่าตอง เป็นต้น

Related Posts

Send this to a friend