‘ก้าวไกล’ เสนอหั่นงบกลาโหม 5% ชี้ ซื้อเฮลิคอปเตอร์ 5 พันล้าน สวนทางวิกฤตประเทศ

‘ก้าวไกล’ เสนอหั่นงบกลาโหม 5% ชี้ จัดงบซื้อเฮลิคอปเตอร์ 5 พันล้านบาท สวนทางวิกฤตประเทศ ขอทัพเรืออย่าตกเป็นเหยื่อการเมือง หลังถูกตัดงบซื้อเรือฟริเกต

วันนี้ (20 มี.ค. 67) เรืออากาศโทธนเดช เพ็งสุข สส.ก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2, 3 โดยระบุว่า งบกลาโหมปี 67 ไม่ตอบโจทย์กับชุดความคิดพัฒนาร่วมกันของรัฐบาล เป็นงบที่ทำให้กำลังพลรู้สึกสิ้นหวัง เพราะรัฐบาลที่เลี่ยงคำว่าปฏิรูป ยกตัวอย่างโครงการดำรงขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุง บก.ทท. ระยะที่ 1 วงเงิน 35 ล้านบาท โดยเฉพาะการจัดซื้อสิ่งอุปกรณ์สายขนส่ง 17 ล้านบาท มีการจัดซื้อรถโดยสารขนาดเล็กคือรถ MG MAXUS 9 ซึ่งกองทัพเรือเคยเสนอเข้ามาในชั้นอนุกรรมมาธิการแต่ไม่สามารถตอบได้ว่า ซื้อมาให้ใครโดยสารจึงถอนเรื่องออกไป

นอกจากนี้ กองทัพยังต้องเผชิญกับวิกฤตศรัทธา การจัดงบประมาณของกองทัพบกไม่ได้สะท้อนวิกฤตประเทศ โดยปีงบประมาณล่าสุดมีความพยายามขอซื้อเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค 3 ลำ เป็นงบประมาณผูกพัน ปี 67, 68 และ 69 งบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันกองทัพบกมีเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมด 125 ลำ ไม่ถือว่าขาดแคลน ส่วนกองทัพอากาศมีเฮลิคอปเตอร์อยู่ 34 ลำ เราพยายามจะลดขนาดกองทัพ แต่กลับกำลังเสริมกองทัพให้โตยิ่งขึ้น จึงไม่สามารถปล่อยผ่านโครงการที่จะใช้เงินมากกว่า 5,000 ล้านบาทไปได้ เพราะสามารถนำไปสร้างสวัสดิการเด็กเล็กและผู้สูงวัยได้อีกเยอะ

ส่วนที่วิกฤตคือกองทัพเรือ ต้องกล้าหาญตัดงบประมาณซื้อเรือฟริเกต แต่กลับหลับตาหนึ่งข้างปล่อยให้เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ควิ่งเข้าน่านฟ้าประเทศไทย ซื้อมาเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่ใช่เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่หลักของกองทัพบก ขณะที่เรือฟริเกตซื้อมาเพื่อป้องกันน่านน้ำกว่า 1,500 ไมล์ทะเล แต่กลับตัดทิ้ง จึงขอให้กองทัพเรืออย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง การจัดงบประมาณเช่นนี้ก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาและวิกฤตกองทัพ ไม่มีกองทัพใดเล็กหรือใหญ่กว่าใคร ทุกกองทัพล้วนมีความสำคัญในการปกป้องประเทศ แต่การทำงบเช่นนี้ทำให้กำลังพลรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และต้องพบกับความคาดหวังว่ารัฐบาลนี้จะกลับมากู้วิกฤตศรัทธาได้

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างอาภรณ์พรรณทั้งเสื้อยืด กางเกง ถุงเท้าที่พลทหารได้รับ คนที่ประมูลงานได้จะเป็นองค์การทหารผ่านศึก สุดท้ายกลายเป็นอัฐยายซื้อขนมยาย ผู้อำนวยการรอคอยการแบ่งเค้กผ่านงบประมาณ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่งบประมาณกระทรวงกลาโหมต้องปรับลดอย่างน้อย 5% ย้ำว่าวิกฤตินี้ต้องแก้ไข เราต้องกล้าหาญปรับลดงบของกองทัพ