ตัวแทนไทย – จีน – เมียนมา จับมือ ก่อนแถลงข่าว ยัน เดินหน้าปราบคอลเซ็นเตอร์

ตัวแทนไทย – จีน – เมียนมา จับมือ ก่อนแถลง ยัน เดินหน้าปราบคอลเซ็นเตอร์ ชี้ ขอรับล็อตแรก 600 คน ก่อนตั้งคณะกรรมการไตรภาคี หาข้อตกลงส่งกลับใหม่ – ตั้งคณะกรรมการ รวมเจ้าที่ทหารฝ่ายปกครองทำงานร่วมกัน ย้ำ ผ่านกระบวนการ NRM แม้จะส่งตัวกลับเลย

วันนี้ (20 ก.พ. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน, พลเอกอ่อง ซอ ซอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของเมียนมา จับมือกัน ก่อนจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ภายหลังการลงพื้นที่ติดตามการส่งตัวชาวจีนจากเมียนมา ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ประเทศไทย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาครั้งนี้มาติดตามที่ได้คุยทั้งหมดแล้ว เราทำงานล่วงหน้ากันมา 1 – 2 เดือน การเดินทางมาจึงมาดูการปฏิบัติงาน จึงไม่ได้มีการปรากฏตัวมาด้วย จึงเป็นกระแสว่าทำไมจีนมีอำนาจสั่งการอะไรนักหนา ซึ่งเขายืนยันว่า เขาแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ความหวังดีที่เขาอยากจะแก้ปัญหาให้เร็ว ทำให้เข้าใจผิด และทั้ง 3 ส่วน ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ เพราะฉะนั้น ชายแดนเกี่ยวข้องหลายกระบวนการ ถ้าไม่จับมือร่วมกัน หรือให้ใครคนใดคนหนึ่งทำ เป็นไปไม่ได้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเคารพอธิปไตยของแต่ละฝ่าย และจะปฏิบัติกฎหมายท้องถิ่นแต่ละประเทศ หลังจากนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ จะคุยภาคีระดับรัฐมนตรีทั้ง 3 ฝ่าย และกระทรวงการต่างประเทศรับรู้เรื่องนี้แล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะเกิดขึ้นทันเมื่อพร้อม เพราะทุกฝ่ายคุยกันหมดแล้ว

นายภูมิธรรม ย้ำว่า ชุดนี้จะเป็นชุดสุดท้าย แต่หลังจากนี้ ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในบางส่วน ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกัน จึงจำเป็นต้องพูดคุยกันในไตรภาคี และตั้งแต่ออกเดินทางจากเมียนมา มีระบบการคัดกรอง และเรื่องไบโอเมตทริกซ์ มีการทำแล้ว อย่าไปให้ใครเที่ยวพูดว่าเราไม่ทำงาน เรื่องนี้มีโทษสูงหลายเรื่อง อย่าคิดว่าพวกเราจะเอาชีวิตเราไปเสี่ยง ยืนยันว่า ทุกอย่างทำตามกระบวนการ

นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนเองไม่สบายใจที่จะมีการนำชาวอุยกูร์กลับไปพร้อมกับชาวจีนด้วย ซึ่งเรื่องนี้สามารถติดตามและตรวจสอบได้ ท่านก็สามารถตรวจสอบได้

ส่วนที่ไม่ให้ถ่ายหน้า เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ซึ่งก็มีการปะปนกันไป แต่เราจะมีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้มีการตั้งสำนักงานที่นี่ แต่จะมีการคุยกันทั้ง 3 ฝ่าย ดังนั้น ชุดนี้มี 600 คน วันละ 4 เที่ยว มีกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ทางไทยเข้าไปตรวจสอบด้วย ทุกอย่างต้องยึดหลักสิทธิมนุษยชน จึงบอกว่าอย่าไปถ่ายหน้าเขา ต้องเห็นแก่เหยื่อที่ประสบภัยนี้ด้วย ซึ่งได้มีการตรวจสอบตามกระบวนการแล้วในขั้นต้น แต่การทำงานไม่ได้หยุด จะมีการตรวจสอบต่อไป

ขณะนี้ กำลังหยิบเอากฎหมาย ปี 48 ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมที่จะมีทั้งทหาร และฝ่ายปกครอง โดยให้แม่ทัพภาค 3 เป็นซิงเกิ้ลคอมมานด์ในการสั่งการ และจะมีโฆษกคอยชี้แจงเรื่อย ๆ จะได้ความชัดเจน จากทั้ง 3 ฝ่าย และมีกระทรวงการต่างประเทศด้วย และจะรีบตั้ง เพื่อให้มีส่วนที่รับผิดชอบ ไม่ต้องไปถามหาความรับผิดชอบจากใคร เพราะมีกฎหมายรองรับ

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หลัก ๆ เราไม่ให้มาตั้งค่าย เพราะเราไม่มีศักยภาพพอที่จะรองรับผู้อพยพ เพราะที่มีอยู่เวลานี้มีปัญหา ถ้าจะส่งมาให้เรา ก็ต้องมีกระบวนการที่พร้อมรับไปเช่นการติดต่อผ่านสถานทูตเพื่อมารอรับ ส่วนเรื่องทางการจีน เขาพร้อมมารับ และเห็นว่าการเดินทางผ่านไปยังย่างกุ้งนั้นอันตราย และระยะทางไกล ซึ่งเราก็พร้อมจะช่วยเหลือ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่อประชาคมโลก ทั้งนี้ มาตรการอื่น ๆ ยังคงมีการทำอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ฝ่ายค้านที่พูดเรื่องนี้ก็อยากให้แนะนำมายังรัฐบาล ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นการเมือง เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประเทศ และเป็นความร่วมมือกันระหว่างประเทศ เพราะถ้าเกิดเป็นผลกระทบ จะจัดการไม่ได้

กระบวนการต่าง ๆ เราทำอย่างเปิดเผย แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมโลก จึงทำให้บางเรื่อง จำเป็นต้องมีกระบวนการในการจัดการ มิฉะนั้น ถ้ามาพูดผ่านสื่อหมด จะจับคนร้ายไม่ได้

นายภูมิธรรม ย้ำว่า กระแสข่าวที่ว่าชาวจีนไม่ผ่านกระบวนการ NRM นั้น ไม่จริง ทำตลอด ซึ่งเครื่องมือได้มีการนำมาเพิ่มจากส่วนกลาง ทำให้การจัดการในวันนี้รวดเร็ว และเสร็จก่อนเวลา อย่างไรก็ตาม เราต้องทำ ถ้าไม่ทำจะมีมีโทษตามมาตรา 119

นายภูมิธรรม ยังไม่ขอตอบว่าคนในรอบนี้มีเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์หรือไม่ ส่วนข้อเสนอทั้ง 4 ข้อจากนายหลิว จงอี้ เราก็รับทราบ ซึ่งบางอย่างเราก็ทำต่อเนื่องอยู่แล้ว และจะโยนให้เป็นเรื่องของไตรภาคีในการพูดคุยกัน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะส่งคนกลับมายังฝั่งไทยนั้น ตนเองยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เห็นว่าขณะนี้ทางการเมียนมา เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งรายชื่อของตัวการที่ว่าทางการไทยอาจมีรายชื่อแล้วนั้น เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ ต้องรอดูผล

เมื่อถามว่า ผ่านมา 15 วันตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดเน็ต เป็นอย่างบ้าง นายภูมิธรรม ระบุว่า ก็เกิดการตื่นตัว เนื่องจากคนส่วนน้อยทางฝั่งเมียนมา เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และก็ยังเกิดภาพการส่งตัวชาวจีนในวันนี้ ดังนั้น ถ้าไม่มีกระบวนการ 3 ตัดของเรา สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิด

ส่วนที่มีการรวมกลุ่มได้ 2,000 – 3,000 คน จะทำให้กระบวนการล่าช้าหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ถ้ามีความพร้อมก็สามารถทำได้เลย

นายภูมิธรรม กล่าวถึงมาตรการซีลชายแดน ว่า การส่งตู้คอนเทนเนอร์มาจากจีนนั้น สามารถตรวจสอบของในตู้ได้ เราก็กำลังทำกันอยู่ ส่วนจะเข้มข้มหรือไม่ อยู่ที่ตนเอง และการประเมิน