POLITICS

‘สุชัชวีร์’ แสดงวิสัยทัศน์ “Quantum Leap” ขออาสาเป็นนายกฯ คนที่ใช่

วันนี้ (19 ธ.ค.68) พรรคไทยก้าวใหม่ จัดงาน “ก้าวใหม่สู่อนาคตประเทศไทย Thailand Vision 2026” ที่โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพมหานคร

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ระบุว่าขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับตนเองและพรรคไทยก้าวใหม่ ตนเองจะไม่พูดเรื่องการเมืองเก่า ๆ การเมืองเดิม ๆ เพราะเชื่อว่าทุกคนเบื่อ แต่วันนี้จะมาพูดเรื่องอนาคตของประเทศไทยและเวลาของประเทศที่เรารอไม่ได้ เชื่อว่าทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดของมนุษยชาติคือ “เวลา” ซึ่งมีค่ายิ่งกว่าเงิน และสิ่งใด ๆ ไม่สามารถที่จะซื้อได้แม้จะมีเงิน เวลาไม่สามารถย้อนหลังกลับสู่อดีตได้

วันนี้จึงเป็นวันสำคัญที่จะชี้อนาคตของประเทศไทย จังหวะเวลาของประเทศมาไม่ได้บ่อยครั้ง อาจจะมาแค่ครั้งเดียว หากพลาดโอกาสนั้นแล้วอาจจะไม่มีเวลากลับไปแก้ไขได้เลย วันนี้เวลาของประเทศไทยมาถึงแล้ว เราพลาดไม่ได้เพราะหากพลาดอาจจะไม่มีคำขอโทษที่เพียงพอให้ลูกหลานคนไทย

ย้อนไปเมื่อ 70 ปีก่อน ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในเอเชียไม่แพ้เกาหลีใต้และไต้หวัน เขาบอกว่าประเทศไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่แล้ววันนี้ไม่ได้เป็นกลับกลายเป็นประเทศเวียดนาม เมื่อ 20 ปีก่อนเวียดนามมี GDP แค่ 1 ใน 5 หรือ 20% ของไทย จากนั้นเวียดนามก็เติบโตอย่างรวดเร็ว วันนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าเวียดนามดึงดูดทุกทรัพยากรและคนเก่งในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่ประเทศไทยจะทำมาหลายทศวรรษ ไม่เกิน 4 ปี ประเทศเวียดนามจะแซงประเทศไทยโดยสมบูรณ์แบบ

หากวันนี้เราไม่คิดจะก้าวใหม่ ประเทศไทยจะถอยหลังไปถึงไหน สภาอุตสาหกรรมประเทศไทย และ IMF คาดการณ์ว่าปี ค.ศ.2030 ไม่เพียงแต่เวียดนาม แต่ฟิลิปปินส์จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเติบโตกว่าไทย และอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะต้องกลับมาแข่งกับกัมพูชา ซึ่งตนเองรับไม่ได้

นายสุชัชวีร์ เชื่อว่าคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้เศรษฐกิจไทย GDP เติบโตเพียง 2% ปีหน้า GDP ไม่มีทางถึง 2% ทำให้เงินลงทุนและความเชื่อมั่นไหลออก คนเก่งไปเรียนต่างประเทศไม่กลับประเทศไทย สุดท้ายโอกาสของประเทศไทยจะหายไปโดยสิ้นเชิง

ขณะที่การเติบโตของตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยเปรียบเทียบกับ NASDAQ ของสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยยังสาละวนอยู่กับโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างอุตสาหกรรม โครงสร้างพัฒนาศักยภาพคนแบบตกยุค ซึ่งเด็กไทยฉลาดไม่แพ้เด็กชาติในโลก แต่เราติดกับดักการศึกษาที่ล้าหลัง เรามีแรงงานที่มีฝีมือแต่สุดท้ายแล้วทักษะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่มีใครต่อยอดให้สามารถสู้กับเศรษฐกิจของโลกใหม่ได้ เรามีผู้ประกอบการ SMEs มากที่สุดในโลก 3.3 ล้านราย ซึ่งทุกคนสู้เกินร้อย แต่สุดท้ายไปไม่ถึงไหนเพราะไม่มีโอกาส ไม่มีช่องว่างให้โตในระบบของประเทศไทย ขณะที่ประเทศไทยมีคนเก่งมากมายแต่กลับจมปลักอยู่กับเศรษฐกิจแบบเดิม ทำให้เขาถูกบีบไม่สามารถเติบโตเบ่งบานได้

ดังนั้นวันนี้ถึงเวลาที่เรารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ประเทศไทยถึงจุดนี้ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องเข้าสู่ยุค ”Quantum Leap“ คือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยซึ่งเป็นหนทางรอดเดียว ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นหัวใจของวิสัยทัศน์ ”Thailand Vision 2026“ หากเรายังสาละวนอยู่กับอุตสาหกรรมเก่า เราจะไม่มีทางแข่งขันได้ วันนี้จะต้องมีการพูดถึง ”Quantum Economy“ ที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตมี GDP 5% ต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องอาศัยปัจจัยสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่

1.มียุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ ซึ่งต้องอาศัย AI, Data และ Platform เพื่อให้เกิด Quantum Economy อย่างไร้ขีดจำกัด หากเรามีโอกาสเป็นรัฐบาลจะต้องมีการลงทุนในสมองของประเทศ อาทิ National Data Platform พร้อมกับพัฒนาระบบ AI และ Cloud เผื่อให้ได้ข้อมูลทางเศรษฐกิจ ภัยพิบัติ และความมั่นคงปลอดภัย

นอกจากนี้จะต้องผลักดันให้เกิดการลงทุนในพลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ทุกคนต้องเข้าถึงได้ด้วยตนเอง โดยรัฐจะต้องลงทุนในระบบจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ อีกทั้งสนับสนุนให้เอกชนในการลงทุนแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดโดยรัฐ เพื่อให้เกิดแพลตฟอร์มต่าง ๆ และจะต้องเปลี่ยนจากผู้สั่งการเป็นผู้ออกแบบกติกา เพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม รวมถึงการลงทุนในอนาคตผ่านพันธบัตรโครงสร้างพื้นฐาน พันธบัตร AI สนับสนุนกองทุน Start up และ SMEs เต็มรูปแบบ

2.โครงสร้างพื้นฐานใหม่ ไทยต้องเลือกซ่อมโครงสร้างเดิมแต่ “ต้องเขียนใหม่ทั้งระบบ” พรรคไทยก้าวใหม่ขอเป็นพรรคการเมืองแรกที่จะสนับสนุนเทคโนโลยีอวกาศของไทยด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการลดความเสียหายจากภัยพิบัติ ประหยัดงบประมาณได้แสนล้านบาท คาดการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้งล่วงหน้า วางแผนการระบายน้ำ รวมถึงการอพยพช่วยเหลือได้ตรงจุด

เราจะเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรอย่างสิ้นเชิงด้วยเทคโนโลยีอวกาศ การเกษตรต้องไม่ใช่การเสี่ยงดวงที่ลงท้ายด้วยหนี้สินแต่จะต้องสร้างเงินให้เข้ากระเป๋าเกษตรกรได้ จะต้องมีการสร้างเกษตรกรที่แม่นยำเหมือนกับประเทศอิสราเอล นอกจากนี้รัฐยังจะสามารถกำหนดนโยบายได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาผังเมืองและการปฏิรูปที่ดิน เทคโนโลยีอวกาศ ยังจะส่งเสริมความมั่นคงและความต่อเนื่องของรัฐ และยังจะสามารถสร้างเศรษฐกิจใหม่และงานคุณภาพสูง ที่มีความมั่นคงประเทศไทยจะเปลี่ยนจากผู้ใช้เทคโนโลยีเป็นผู้ขายบริการข้อมูล

พรรคไทยก้าวใหม่มุ่งเปลี่ยนโครงสร้างประเทศด้วย AI Transformation เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ ความมั่นคง คุณภาพชีวิตของคนไทย และจัดการปัญหาทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นปัญหาหมักหมมยาวนานที่สุด เนื่องจากข้อมูลจะเป็นหัวใจของรัฐ และ AI จะเป็นมันสมองของนโยบาย ทั้งยังสามารถป้องกันการคอรัปชั่นก่อนเกิดเหตุ ภายใต้รัฐบาลพรรคไทยก้าวใหม่ ข้าราชการจะโปร่งใส ไม่มีงานซ้ำซ้อน สามารถบริการประชาชนได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐจะต้องลงทุนก่อนตลาด โดย Medical Intelligence มีความจำเป็นอย่างมาก ในการใช้ AI ยกระดับประสิทธิภาพการบริการทางการแพทย์ ทั้งยังต้องปรับโครงสร้างต้นทุนพลังงานเพื่อเตรียมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI และ Data Center ด้วย

3.สร้างทุนมนุษย์ใหม่ รัฐบาลพรรคไทยก้าวใหม่ประกาศรีเซ็ทระบบการศึกษาไทย ทำให้เด็กไทย 100% มีทักษะดิจิทัลและ AI ภายใน 5 ปี ทุกโรงเรียนต้องสอน Coding และ AI ภาษาอังกฤษต้องเป็นภาษาอังกฤษที่ 2 อย่างแท้จริง ยกระดับอาชีวะรูปแบบใหม่ เปลี่ยนครูจากผู้สอนเป็นโค้ช

นอกจากนี้พรรคไทยก้าวใหม่ยังตั้งเป้าที่จะอัพสกิวคนทำงาน 20 ล้านคน ด้วย National AI Training Platform เพราะตนเองอยากสร้างแรงงานไทยให้สู้กับสิงคโปร์ เปลี่ยนแรงงานเก่าสู่ยุค Quantum Leap ให้ได้ พร้อมดึง Talent จากทั่วโลกมาพัฒนาประเทศไทย 1 ล้านคนใน 10 ปี

”ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีผู้นำที่มีความรู้จริง วิสัยทัศน์ที่ใช่ที่สามารถทำได้ ทำเป็น ถึงเวลาแล้วที่ผม หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ขออาสาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ใช่ของประเทศไทย“ นายสุชัชวีร์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend