‘จิราพร’ เผย รอฟังความเห็นกฤษฎีกา เพิกถอนใบอนุญาตดิไอคอนกรุ๊ปหรือไม่
‘จิราพร’ เผย รอฟังความเห็นกฤษฎีกา เพิกถอนใบอนุญาตดิไอคอนกรุ๊ปหรือไม่ ยัน ต้องทำอย่างรอบคอบรัดกุม ชี้ ขยายเวลา 30 วัน สอบเทวดา สคบ. ไม่กังวลโดนนำชื่อไปพาดพิง เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว
วันนี้ (19 พ.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ว่า ทาง สคบ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และแสวงหาข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าสมควรเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่งบริษัทดังกล่าว จดทะเบียนบริษัทแบบตรง ไม่ได้จดทะเบียนบริษัทแบบขายตรง ซึ่งการเพิกถอนใบอนุญาตต้องทำให้รัดกุม ที่ผ่านมามีการ ส่งเรื่องไปให้อนุกรรมการด้านกฎหมายของ สคบ. โดยมีมติเมื่อ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ให้หารือไปยังกฤษฎีกาเพื่อความรัดกุม ระหว่างนั้น ตนเองได้สั่งการให้ สคบ. ทำงานร่วมกันกับดีเอสไอ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อในการโอนคดีไปที่ดีเอส ในการให้ข้อมูลเรื่องแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นที่มาของการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ทราบว่ากฤษฎีกามีการกำหนดประชุมข้อหารือของ สคบ. ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย. 67) เวลา 16:00 น. และรอฟังกฤษฎีกาเพื่อประกอบการดำเนินการต่อไป
นางสาวจิราพร กล่าวต่อว่า ในส่วน สคบ. ต้องหารือในหลายประเด็น และรวมถึงแนวทางการป้องกันการทำผิดกฎหมาย ในลักษณะการทำผิดที่เป็นแชร์ลูกโซ่ในระยะยาว และวางแนวทางแก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกัน ส่วนที่หลายท่านมองว่าล่าช้า ยืนยันว่า ตนเองได้สั่งการให้ทำอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม ย้ำว่า ภายใต้การกำกับดูแลของตนเอง ไม่มีอะไรล่าช้า หลังจากมีการร้องเรียนเข้ามาแค่หนึ่งสัปดาห์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ทำงานเต็มที่จนมีการแจ้งข้อหา และนำไปสู่การจับกุม
เมื่อถามว่าที่ต้องส่งข้อมูลให้กฤษฎีกา เพื่อขอความมั่นใจใช่หรือไม่ เพราะทางดิไอคอน ระบุว่า ถ้ามีการเพิกถอนใบอนุญาตจะดำเนินคดีตามมาตรา 157 นางสาวจิราพร ยอมรับว่า ก็ด้วย แต่ถึงไม่มีใครขู่ฟ้อง แต่กฎหมายก็มีขั้นตอนอยู่ สคบ. เป็นหน่วยงานราชการจะทำอะไรต้องให้เกิดความรัดกุม และไปทำกับทุกฝ่าย
ส่วนความคืบหน้าของการตรวจตรวจสอบเทวดาใน สคบ. นางสาวจิราพร กล่าวว่า ขณะนี้ครบกำหนดเวลา 30 วันแล้ว โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการสองคณะ ทั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบคลิปเสียง และคณะที่ตรวจสอบข้อจำกัดของกฎหมาย ซึ่งทั้ง 2 คณะ มีการกำหนดตัวบุคคลที่จะมาเป็นพยานหลายรายเหมือนกัน เพื่อนำมาพิจารณา และต้องขยายระยะเวลาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งมีการเสนอเรื่องขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 30 วัน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีคลิปเสียงที่พาดพิงตนนั้น นางสาวจิราพร ระบุว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่มีอะไรกังวล












