เวทีอนาคตเด็กไทยกับความปลอดภัยบนท้องถนน เรียกร้องแก้ปัญหาการประสบอันตรายทางถนน
เวทีอนาคตเด็กไทยกับความปลอดภัยบนท้องถนน เรียกร้องแก้ปัญหาการประสบอันตรายทางถนน เสนอขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ หวังรัฐบาลกระจายอำนาจ เกิดการแก้ทุกปัญหาในพื้นที่
คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า จัดเสวนา “อนาคตเด็กไทยกับความปลอดภัยบนท้องถนน” เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรม เดอะพาลาสโซ กรุงเทพฯ หวังเกิดการหาแนวทางแก้ปัญหาการประสบอันตรายทางถนนของเยาวชน พร้อมเปิดตัวนิทานเด็กในงาน
ผศ.สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า กล่าวว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กมีมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการมาทัศนศึกษา การเดินทางของเด็กมาโรงเรียนในแต่ละวัน ดังนั้นความปลอดภัยของเด็กต้องเกิดจากความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โรงเรียนเด็กเล็กจำนวนมาก ไม่มีรถนักเรียนที่ปลอดภัยในการรับส่ง สิ่งที่ท้าทายของทุกหน่วยงาน คือ ความปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กๆ ที่หลายหน่วยงานต้องร่วมกันเคลื่อนไหว ซึ่งบางเรื่องทำได้ทันที
ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาพเด็ก เยาวชน และครอบครัว (สสส.) กล่าวว่า สถิติการประสบอันตรายบนท้องถนนมีอัตราสูงมาก โดยเฉพาะการประสบอันตรายของเด็กและเยาวชน สสส.จึงมีนโยบายความปลอดภัยบนท้องถนน โดยมีภาคีเครือข่าย ท้องถิ่น จำนวนมากเข้าร่วมโครงการ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ความปลอดภัยบนท้องถนนต้องเป็นบริการสาธารณะ รถรับส่งนักเรียนต้องไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เราต้องไม่ปล่อยให้เกิดความสูญเสียแบบที่ผ่านมา
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สภาองค์กรของผู้บริโภค ดำเนินการด้านความปลอดภัยทางถนน โดยเริ่มจากรถรับ-ส่งสาธารณะ และขยับมาทำเรื่องรถรับส่งนักเรียน การทำงานกับมาตรฐานของการขับขี่มอเตอร์ไซด์ โดยมีการทดสอบหมวกกันน็อกให้มีคุณภาพ เพราะพบว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมาจากรถมอเตอร์ไซต์
สารี กล่าวต่อว่า หากจะทำงานความปลอดภัยทางถนน ต้องทำงานด้านขนส่งสาธารณะให้มีคุณภาพ โดยราคาค่าโดยสารต้องไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของค่าครองชีพ จึงเรียกร้องให้ลดราคาค่ารถไฟฟ้า อีกทั้งต้องผลักดันให้ อบจ.แต่ละจังหวัด จัดการด้านขนส่งมวลชนให้มีคุณภาพ และเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงนี้ ภาพรวมรัฐต้องมีการจัดงบประมาณให้เหมาะสมกับการจัดการขนส่งมวลชนให้กับประชาชน
รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะสามารถแก้และบรรเทาได้ หากรัฐบาลดำเนินการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง งบประมาณ โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด แบ่งมาให้ท้องถิ่นเท่าที่จำเป็น การแก้ไขปัญหาจึงค่อนข้างยาก อยากให้เด็กปลอดภัยอย่างแท้จริงต้องกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์แบบ ท้องถิ่นไม่ใช่รากหญ้า แต่เป็นฐานรากของประเทศชาติ
ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น รัฐมนตรีสั่งการให้ช่วยเหลือเยียวยาไปจนถึงครอบครัว ไม่ใช่เพียงผู้ที่เสียชีวิต นอกจากนี้ สพฐ.มีศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย เพื่อร่วมป้องกันและแก้ปัญหาภัยต่าง ๆ ในโรงเรียนจะมีแผนเผชิญภัยต่าง ๆ
ณัฐวุฒิ บัวประทุม กรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ก่อนนำเสนอเรื่องเด็ก อยากชวนตั้งคำถามว่า สังคมไทยมองเด็กอย่างไร ประเด็นเด็กหลายประเด็นที่นำเสนอและถามในรัฐสภาแต่ไม่มีคำตอบ หรือถึงตอบมาก็ตอบไม่ตรงคำถาม ในขณะที่นโยบาย 300 ข้อของพรรคก้าวไกล มีการเสนอเรื่องความปลอดภัยของเด็ก
รศ.ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง ในฐานะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีรถบัสทัศนศึกษาที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้หาสาเหตุและหาข้อแก้ไขตกลงร่วมกัน ประเด็นที่สำคัญคือการบังคับใช้กฎหมาย การพิจารณาหลักสูตรการเรียนการสอนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการสร้างความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียน ในขณะเดียวกัน ท้องถิ่นต้องมีการบริหารงานแบบภาคีร่วมกัน การกระจายอำนาจ เพี่อนำไปสู่การบริการสาธารณะ












