POLITICS

‘ชูวิทย์’ รอฟังศาลฟัน ‘สุเทพ’ ปมโรงพักร้าง 396 แห่งทั่วไทย

‘ชูวิทย์’ รอฟังศาลฟัน ‘สุเทพ’ ปมโรงพักร้าง 396 แห่งทั่วไทย ตั้งคำถามรอเอาผิดถึง 10 ปี ส่อหมดหวังปราบคอรัปชั่น ลั่นหากพรุ่งนี้มีคนติดคุกจะเซอร์ไพรส์มาก

วันนี้ (19 ก.ย. 65) ที่โรงแรมเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงข่าวกรณีการทุจริตในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (โรงพัก) ทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นคดีความยืดเยื้อมาตั้งแต่สมัย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบโครงการและลงนามอนุมัติงาน ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนและชี้มูลความผิด นายสุเทพ ผ่านมาร่วม 10 ปี กระทั่งวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย. 65) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะนัดอ่านคำพิพากษา

นายชูวิทย์ ในฐานะผู้เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในขณะนั้น ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา ณ วันนี้จึงจอตั้งคำถามว่า คดีเช่นนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนจนถึงขั้นต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี กว่าจะมีคำพิพากษาออกมา

“นาฬิกาของผมมันเดินช้ากว่าคนอื่นหรือ ปฏิทินของผมช้ากว่าประเทศอื่น ผมไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย เหตุใดอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องเอง ทำไมต้องให้ ป.ป.ช. สั่งฟ้อง ทั้งที่เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ในอนาคตไม่ว่าการทุจริตใดๆ ก็แล้วแต่ จะต้องใช้เวลานานเพียงใดในการปราบคอรัปชั่น หากกระบวนการเพียงเท่านี้ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี ทั้งที่ควรจะปีเดียวหรือเปล่า”

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไม่สามารถพาดพิงใครได้ เพราะกลัวโดนหาว่าหมิ่นประมาท ทำได้แค่นำเสนอ อย่างน้อยผลงานของฝ่ายค้านอย่างผม ก็ยังได้เห็นกับตาในวันที่ผมมีชีวิตอยู่ จากคดีคอร์รัปชันธรรมดาๆ กลายเป็นคดีการเมืองแล้วหรือเปล่า ทำไมจึงใช้เวลานานขนาดนี้ คนก่อเหตุก็สบาย ตนรับประกันได้ว่าคนลืมเรื่องนี้กันไปแล้ว

“คดีคอรัปชั่นของประเทศไทยไม่มีวันที่ที่จะจบสิ้นถ้ากระบวนการยังเป็นแบบนี้ คุณมี ป.ป.ช. ปปง. ปปส. ป. เยอะแยะไปหมด แต่ท้ายสุดคุณถูกกลืนเข้าไปในระบบที่ทุจริต คนเคยคิดหรือไม่ว่าหากไม่มีระบบทุจริตนี้ ระบบที่สมยอมกัน ฮั้วกัน ระบบที่เป็นการเมือง ชัดเจน ตรงไปตรงมา คนจะกลัวหรือไม่ คนจะระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ ในสภาทุกวันนี้ ที่แปลงร่างเป็นงูเห่าบ้างอะไรบ้างแล้ว ทุกคนมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง”

นายชูวิทย์ ย้ำว่า วันพรุ่งนี้ จะขอดู อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก สมองว่างเปล่า หัวใจว่างเปล่า เพราะศาลท่านก็ตัดสินเท่าที่หลักฐานมี ขอเพียงพูดให้เห็นถึงภาพของความเสียหาย ของคอรัปชั่น แม้กระทั่งเรื่องสัญญาง่ายๆ ยังใช้เวลาทะเลาะกันตั้ง 10 ปี และกลับเที่ยวพูดว่าจะปราบคอร์รัปชั่น ปราบโกง ประชาชนคนรุ่นใหม่ที่ติดตามข่าวสารควรจะจดจำไว้ ยิ่งเวลาล่าช้าไปนาน งบประมาณเหล่านี้ล้วนสูญเสีย

นายชูวิทย์ กล่าวว่า พรุ่งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าใครจะติดคุก ถ้าติดคุกล่ะก็จะเซอร์ไพรส์มาก แต่เรื่องมันเกิดก่อนปี 2555 อีก นับไปก็เกิน 10 ปี ถ้าเกิดมีโครงการเมกะโปรเจค สลับซับซ้อนกว่านี้ จะใช้เวลายาวนานแค่ไหน คนจะกลัวไหม ดังนั้น พูดได้คำเดียวว่า ประเทศไทยน่ากลัวมาก ไม่ใช่น่ากลัวในสายตาของผม แต่น่ากลัวในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ

นายชูวิทย์ ย้ำว่า การเป็นฝ่ายค้าน จำเป็นต้องตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายบริหาร เพื่อให้รัฐบาลระวังตัว และจะได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ถือเป็นประโยชน์ที่ฝ่ายค้านจะทำได้ ซึ่งในมุมมองของตน ฝ่ายค้านในปัจจุบันยังไม่ได้ทำเช่นนั้น

“ดังนั้น การเป็นฝ่ายค้านไม่ได้เสียหาย คุณไม่ต้องรีบเป็นรัฐบาลอย่างเดียว ไม่จำเป็น ถ้าคุณจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล มีประโยชน์ทั้งนั้น แต่การวางตัวของคุณได้ทำหรือเปล่า ซึ่งผมดูแล้วในปัจจุบัน ยังไม่ได้ทำ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระบวนการอัยการมีส่วนที่ทำให้คดีนี้ล่าช้าหรือไม่ นายชูวิทย์ ตอบว่า แน่นอน เพราะอัยการไม่ได้สั่งฟ้อง จน ป.ป.ช. ต้องแต่งตั้งทนาย ป.ป.ช. ฟ้องเอง เป็นเรื่องตลกหรือเปล่า สาเหตุมันเพราะอะไรกัน เรื่องที่มันยากถ้าทำให้มันง่ายก็จบ แต่กลับทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก ทำให้เรื่องยากเป็นเรื่องยากเป็นเรื่องยากมหาศาล

ถ้าหากศาลพิพากษาว่าผิดจริง ต้องถามกลับไปยังอัยการหรือไม่ นายชูวิทย์ ตอบว่า คนพวกนั้นน่าจะเกษียณไปหมดแล้ว ก่อนจะย้ำว่าพรุ่งนี้ จะเพียงแต่ติดตามดูเหมือนประชาชนคนหนึ่ง จับตาว่าจะมีคนติดคุกหรือไม่ หรืออาจจะมีเหตุสุดวิสัยให้ต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปอีกก็เป็นได้

เรื่อง/ภาพ: ณัฐนนท์ เจริญชัย

Related Posts

Send this to a friend