วุฒิสภา หวั่นไทยกลายเป็น ‘แดนขยะโลก’ จ่อชงรัฐบาลใช้ กม.ปปง.ยึดทรัพย์
วันนี้ (19 ก.ค. 68) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อวิกฤตลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมและนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฎหมายที่ทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมเตรียมเสนอมาตรการ “ยาแรง” ให้รัฐบาลพิจารณา โดยมีข้อเสนอสำคัญคือการแก้ไขกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้สามารถยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดได้
พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบทิ้งขยะพิษได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง โดย กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ตรวจพบกรณีกากของเสียอุตสาหกรรมในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือการปนเปื้อนของสารเคมีและโลหะหนักในแหล่งน้ำบาดาลถึง 5 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, นครราชสีมา, พระนครศรีอยุธยา, ราชบุรี และระยอง นอกจากนี้ ยังพบการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาบาเซลและกฎหมายภายในประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างของกฎหมายและการบังคับใช้ที่ยังไม่เข้มงวด
ด้าน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธาน กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งการขาดมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสม, กฎหมายที่ยังไม่เข้มแข็งพอ, ช่องโหว่ในระบบการตรวจสอบ และการมีส่วนสนับสนุนจากเครือข่ายองค์กรผิดกฎหมายจากต่างประเทศ ทาง กมธ.ฯ จึงเตรียมรวบรวมข้อเสนอทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงกฎหมายสิ่งแวดล้อมให้ทันสมัย เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ผลักดันสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง
นายชีวะภาพย้ำว่า บทลงโทษที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเบาเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทาง กมธ.ฯ จึงพิจารณาแนวทางที่จะเป็น “ยาแรง” ในการบังคับใช้ โดยมองว่าการกระทำเหล่านี้เป็นอาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรง โดยได้ชี้ไปที่กฎหมายของ ปปง. ซึ่งปัจจุบันมีข้อกำหนดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติที่ระบุว่าผู้ที่ยึดถือครอบครองหรือใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการค้าโดยมิชอบ จะเข้าข่ายเป็นมูลฐานความผิดและต้องถูกยึดทรัพย์ แต่กฎหมายดังกล่าวยังมีช่องว่างคือไม่ได้เขียนครอบคลุมถึงมิติของ “มลพิษ” โดยตรง เช่น ปัญหาน้ำเสีย ดินปนเปื้อน อากาศเป็นพิษ หรือการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม
กมธ.จะพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขนิยามศัพท์ในกฎหมาย ปปง. ให้ขยายความครอบคลุมถึงมลพิษและการลักลอบนำเข้าขยะพิษด้วย ซึ่งหากทำได้สำเร็จ ผู้ใดที่ถูกจับกุมในคดีเหล่านี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเส้นทางการเงินและถูกยึดทรัพย์โดย ปปง. ทันที












