‘พีระพันธุ์’ เผยผลหารือร่วม กกพ. – ปตท. ยืนค่าไฟ 4.18 บาท ตรึงดีเซลไม่เกิน 33 บาท/ลิตร
‘พีระพันธุ์’ เผย มติผลหารือร่วม กกพ. – ปตท. ยืนค่าไฟตามเดิม 4.18 บาท ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับขึ้นค่าไฟว่า ช่วงสัปดาห์ก่อน ได้เดินทางไปประชุมพลังงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ร่วมกับ นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงฯ จึงไม่ได้อยู่ชี้แจงข้อเท็จจริง อาจทำให้ข้อมูลสับสน แต่ถือเป็นเรื่องปกติทุกครั้งที่จะมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าก็จะมีข่าวออกไปในทางลบเสมอ เป็นเรื่องที่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และกระทรวงพลังงาน ต้องหารือร่วมกันทุกครั้ง
ในวันนี้ได้มีการเชิญประธานคณะกรรมการ กกพ. นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ว่าฯ ปตท. หารือร่วมกัน โดยมีมติยืนค่าไฟอยู่ที่ 4.18 บาท ตามเดิมสำหรับค่าไฟฟ้าในงวดต่อไป ต้องขอบคุณการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่สามารถจัดการภายในกันได้เพื่อช่วยเหลือประชาชน รวมถึง ปตท.ยินดีที่จะไม่รับค่าตอบแทนใด ๆ จากค่าไฟฟ้างวดนี้ เพื่อช่วยประชาชน
นายพีระพันธุ์ ยังระบุอีกว่า การช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือน้ำมัน การดำเนินการไม่ได้อยู่ที่กระทรวงพลังงานเพียงกระทรวงเดียว ทั้งค่าไฟฟ้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะต้องนำเงินส่งคลังตามหลักเกณฑ์ แต่ในการให้ลดราคาหรือตรึงราคาค่าไฟฟ้า ทำให้รายได้ต่ำลง และต้องนำเงินส่งคลังตามผลกำไรที่เกิดจากรายได้ที่ต่ำลง แต่หน่วยงานอื่นกลับนำเอารายได้ที่ควรจะเป็นจริง หรือกำไรที่คำนวณเอง มานำเงินส่งคลัง ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ควรแก้ไข เพราะเป็นการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับภาระโดยที่ไม่มีหน่วยงานอื่นไปช่วย
ส่วนราคาน้ำมันยืนยันว่าจะตรึงไว้ที่ราคาเดิม ซึ่งแต่เดิมกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกลหลักในการดูแลเรื่องราคาน้ำมันให้ประชาชน นับวันก็มีภาระหนี้สินมากขึ้น โดยเฉพาะตามหลักเกณฑ์ที่ออกมาใหม่ที่ให้อำนาจกองทุนน้ำมันหายไปส่วนหนึ่ง ในการกำหนดเพดานภาษี ซึ่งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประชาชนต้องจ่ายมาจาก 2 ส่วน คือ ราคาที่มาจากเนื้อน้ำมันแท้ ๆ อีกส่วนเป็นส่วนของภาครัฐ คือภาษี และนำภาษีมาบวกเพิ่มเรื่องกองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน และค่าการตลาด หากเทียบกันแล้วส่วนใหญ่จะเป็นภาษี
การจะปรับลดราคาน้ำมันลงมา ไม่ได้อยู่แค่เนื้อน้ำมัน จะต้องมีการปรับลดภาษีด้วย แต่เดิมอำนาจทางการกำหนดเพดานภาษีสรรพสามิตเป็นหน้าที่ของกองทุนน้ำมัน แต่ปัจจุบันถูกตัดออกจึงกลายเป็นภาระที่เอาเงินจากกองทุนไปใช้อย่างเดียว ซึ่งจะต้องปรับปรุงกฎหมาย กำลังดำเนินการอยู่ สิ่งที่กระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการและพยายามตรึงไว้ได้ คือตรึงราคาน้ำมันไว้อยู่ที่ 33 บาท ขณะที่ราคาค่าไฟฟ้าจะมีการปรับทุก 4 เดือนตามค่า FT เป็นการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายด้านแก๊ส ต้องดูว่ามีการปรับขึ้นลงอย่างไร
สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนน้ำมัน ไม่ใช่เพียงแต่กระทรวงพลังงานจะต้องคิดว่าจะช่วยกันทำอย่างไร ทั้งนี้ ราคาน้ำมันมาเลเซียที่ถูกกว่าไทยมากเนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียใช้งบประมาณมาดูแลเหมือนกองทุนน้ำมันเกือบปี 1 เกือบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมาเลเซียก็ไปไม่ไหว ทำให้ปัจจุบันราคาน้ำมันของประเทศมาเลเซียขึ้นมา 10 กว่าบาท ไม่ต่างจากเรา
ขณะเดียวกัน นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายการกำหนดเพดานภาษีน้ำมัน โดยระบุว่าขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเมื่อล้างเสร็จก็ต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน