POLITICS

เสรีพิศุทธ์ คาด วันนี้ไม่ได้โหวตนายกฯ เผย ไม่มีเสียงตอบรับ ‘ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา’ เพราะไม่เอาพรรคแก้ ม.112

วันนี้ (19 ก.ค. 66) พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวก่อนร่วมการประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ส่วนตัวเห็นว่าวันนี้อาจจะไม่เข้าถึงกระบวนการลงมติให้ความเห็นชอบด้วยซ้ำไป เพราะมองว่าในช่วงเช้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุม ว่าจะรับคำร้อง ในการวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลและอาจสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพราะหากศาลรับคำร้องสภาจะต้องถกแถลงกันอีก และหากผ่านไปได้ก็จะมี สว. ลุกขึ้นมาบอกว่าเป็นญัตติที่ตกไปแล้วไม่สามารถนำมาเสนอได้ใหม่ในการประชุมสมัยนี้และจะต้องมีการอภิปรายกันอีก ซึ่งส่วนตัวมองว่า หากมีการลงมติอีกนายพิธาก็จะไม่ผ่านความเห็นชอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่จะดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลด้วย ว่าพรรคก้าวไกลเอาด้วยหรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หากถามแบบนี้พรรคก้าวไกลก็ต้องเอาด้วยเพราะเป็นการเพิ่มคะแนนให้เขา แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับจากทั้ง 2 พรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง 2 พรรค ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าติดขัดในเรื่องของการแก้ไขมาตรา 112

ส่วนหากเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับก้าวไกล มองว่าพรรคก้าวไกลต้องถอยเรื่อง มาตรา 112 หรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ก้าวไกลก็เป็นตัวของเขา ก่อนหน้านี้ 8 พรรคร่วมมีมติร่วมกันว่าจะไม่แตะมาตรา 112 หากเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องรวมเสียงก้าวไกลไปด้วย เป็น 312 เสียงเหมือนเดิม แต่ สว.ยืนยันว่าถึงอย่างไรก็ไม่เอาก้าวไกล หากเสนอเช่นนี้ก็ตกไป แต่ถ้าเพื่อไทยไม่เสนอก็ผิดข้อตกลง หากเสนอนายเศรษฐาก็จะตกไปด้วย เพื่อไทยก็ต้องเสนอคนใหม่ ซึ่ง สว.อาจไม่ขัดหากไม่มีพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่าข้อปฏิบัติในการประชุมที่ผ่านมา การเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีสามารถเสนอซ้ำได้หรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เพิ่งใช้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แค่ครั้งเดียว ซึ่งครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยมี สส.มากที่สุด รองลงมาเป็นพรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้ายถูกพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลไป เนื่องจากลงรวมเสียงได้มากกว่า ซึ่งก็เหมือนครั้งนี้พรรคก้าวไกลได้อันดับ 1 ก็มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย 2 ไม่ได้แย่ง แต่ถ้าถามว่าถ้าจะทำก็สามารถทำได้ เพราะการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญเป็นการรวมเสียงข้างมาก มันไม่ได้บอกว่าพรรคไหนได้คะแนนจากประชาชนอันดับ 1 จะต้องเป็นรัฐบาล เพียงแต่ว่าในการเลือกตั้งของเราเป็นการจัดตั้งรัฐบาลผสมจึงเปิดให้หลายพรรคเข้ามารวม ฉะนั้นท่าที่ 1 หรือที่ 2 รวมไม่ได้พรรคอันดับ 3 ก็สามารถทำได้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat