POLITICS

‘บุ้ง เนติพร’ เผย ‘ก้าวไกล’ ช่วยคุยกับตัวแทนผู้ปกครอง หาทางออกให้ ‘หยก’

‘บุ้ง เนติพร’ เผย ‘ก้าวไกล’ ช่วยคุยกับตัวแทนผู้ปกครอง หาทางออกให้ ‘หยก’ มอง ส่ง ‘กองร้อยน้ำหวาน’ เข้าโรงเรียน ทำเกินกว่าเหตุ ด้าน ‘เต้มงคลกิตติ์’ โผล่เสนอตัวช่วยเจรจา

วันนี้ (19 มิ.ย. 66) เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมทะลุวัง ในฐานะผู้ปกครองของ ‘หยก ธนลภย์’ กล่าวถึงการพูดคุยหารือครั้งแรกหลังมีประเด็นเรื่องการตัดสถานะนักเรียนของหยก โดยการหารือกันในครั้งนี้ มี 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง 1 คน ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล นำโดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ปารมี ไวจงเจริญ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค และ บุ้ง เนติพร แต่ยังไม่มีตัวแทนจากทางโรงเรียนร่วมหารือ

บุ้ง เนติพร กล่าวอีกว่า บรรยาการหารือคือการพยายามหาตรงกลางเพื่อหาทางออกร่วมกัน วัตถุประสงค์หลักคือให้ หยก สามารถเรียนต่อในสถานศึกษาเดิมได้ โดยรวมการหารือเป็นไปด้วยดี ซึ่งแม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นจะไม่ต้องให้ หยก ปีนรั้วเพื่อเข้าโรงเรียนอีก และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการพูดคุยครั้งที่ 2 หรือไม่ และเมื่อใด

ขณะที่ทางพรรคก้าวไกลยืนยัน กรณีโรงเรียนอ้างระเบียบว่าไม่มีผู้ปกครองแท้จริงมามอบตัว ไม่สามารถนำมาตัดสิทธิการเข้าเรียนของ หยก ได้ ขณะที่ตัวแทนของสมาคมผู้ปกครองเห็นด้วยกับหลักการนี้ แต่ยังไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้ ขอนำกลับไปหารือภายในก่อน

บุ้ง เนติพร ระบุว่า ทางออกสำหรับเรื่องนี้ ควรต้องเคารพสิทธิทางกฎหมายที่พึงได้รับ ไม่ควรนำการเลี่ยงบาลีทางกฎหมายมาเป็นเหตุให้หยกไม่ได้เรียนหนังสือ ทั้งนี้ หยก ยินดีหากจะถูกตัดคะแนน หรือรับการบำเพ็ญประโยชน์หนักแค่ไหนก็ได้ เพื่อแสดงความจำนงในการใส่ชุดไปรเวท และทำสีผม เป็นการแสดงทางสัญลักษณ์ของอำนาจนิยมในโรงเรียน

บุ้ง เนติพร มองว่า หยก ยังไม่ยอมรับเงื่อนไข หากโรงเรียนเสนอให้แต่งชุดนักเรียน หรือไว้ผมสีดำ ผู้บริหารโรงเรียนต้องชี้แจงถึงเหตุผลให้ชัดเจนว่าเพราะเหตุใด ส่วนกรณีการนำกำลังเจ้าหน้าตำรวจหญิงคุมฝูงชน (กองร้อยน้ำหวาน) มองว่าโรงเรียนทำเกินกว่าเหตุ แม้จะอ้างว่าได้แรงกดดันจากสมาคมผู้ปกครอง หรือจะอ้างว่าตนหรือ หยก จะทำอันตรายกับบุคคลอื่นๆ ในโรงเรียน ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเรามากันไม่เคยเกิน 3-4 คน เพื่อสังเกตการณ์ว่า หยก ปลอดภัยหรือไม่เท่านั้น

ทั้งนี้ บุ้ง เนติพร ยืนยันว่า หยก เป็นเพียงเด็กอายุ 15 ปี ความสูง 145 ซม. ไม่สามารถทำอันตรายใครได้ ส่วนที่ทางตำรวจระบุว่า เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกันระหว่างสองฝ่าย แล้วเรียกกำลังตำรวจมา 4-5 คัน วันนี้ตนมากับ หยก แค่ 2 คน จึงมองว่า ก็ไม่ค่อยยุติธรรมกับ หยก เท่าไหร่ ที่จะต้องกระทำกันรุนแรงขนาดนี้

ขณะเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางมาที่โรงเรียน เสนอตัวเป็นคนกลางเจรจา พร้อมอ้างว่า รู้จักกับอดีต ผอ.ของโรงเรียน แต่ยังไม่ได้มีการนัดหมายกับ ผอ.โรงเรียน คนปัจจุบัน ที่ตนมาครั้งนี้ มาในนามอดีตครูที่เคยช่วยเหลือนักเรียนเมื่อ 11 ปีก่อน

ส่วนตัว นายมงคลกิตติ์ อยากพูดคุยกับ หยก ให้ยอมกลับไปใส่เครื่องแบบนักเรียนตามระเบียบของโรงเรียน และมองว่าไม่ควรนำเรื่องคดีความมาปน ต้องทำความเข้าใจกับ หยก ว่าบริบทของสังคมตอนนี้เป็นอย่างไร และในฐานะที่เขาเป็นเด็กคนหนึ่ง ยังสามารถใช้ความเอื้ออาทรเข้าพูดคุยให้กลับเข้ามาสู่วัฒนธรรมปกติได้

Related Posts

Send this to a friend