POLITICS

‘สว.สิทธิกร’ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้ว จี้สอบทั้งตัวจริง-ตัวสำรอง ถามใช้ AI หาคนทำผิด มีมาตรฐานหรือไม่

วันนี้ (19 พ.ค. 68) นายสิทธิกร คงยศ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คดีฮั้วเลือก สว. ตามหมายเรียก พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองมั่นใจว่าทำตามระเบียบและข้อกฎหมายที่กำหนด แต่ที่เป็นห่วงคือการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพราะเป็นครั้งแรกที่ DSI มาทำงานให้กับ กกต. หากคดีนี้ได้รับการพิจารณาก็จะเป็นบรรทัดฐานในการทำคดีเลือกตั้งอื่น ๆ ทั้งการเลือกตั้ง สส. และการเลือกตั้งท้องถิ่น ดังนั้นจึงเหมือนเป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการทำงานของ กกต. DSI จึงต้องพิสูจน์ว่าทำงานภายใต้อำนาจหน้าที่ ถ้าคดีนี้ผ่านแล้วมีคดีต่อไป ก็ต้องใช้บรรทัดฐานเช่นกัน

สำหรับ DSI เป็นหน่วยงานหนึ่งที่สังกัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีรัฐมนตรีสังกัดพรรคการเมือง ถ้ารัฐมนตรีที่สังกัดพรรคการเมืองมาทำคดี เกรงว่าจะไม่เกิดความเป็นธรรม ส่วน กกต. เป็นองค์กรอิสระที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตนเองจึงมีความเป็นห่วงในคดีนี้

นายสิทธิกร ยืนยันว่า สว. ที่มารับทราบข้อกล่าวหายังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ไม่น่าเป็นประเด็น ส่วนกรณีที่ สว. สำรองเรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มองว่าเป็นการรับลูกกันระหว่าง DSI สว.สำรอง ผู้ที่เสียผลประโยชน์ และ สว. อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยนาม เป็นหน้าที่ของเขาที่สามารถรวมรายชื่อเพื่อส่งถึงประธานวุฒิสภาได้ และคงไม่ใช่กระบวนการกลั่นแกล้ง

หากย้อนกลับไปก่อนวันเลือก สว. จะพบกลุ่มจัดตั้งที่อยู่ในโรงแรมและทางเข้าเมืองธานี มีคนจำนวนมากกว่า 500 คน มีเอกสารที่ไม่แน่ใจว่าใช่โพยหรือไม่ ซึ่งมี สว. ที่เสียผลประโยชน์ และ สว. ที่ใกล้ชิดกับพรรคการเมือง จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด DSI จึงไม่ตรวจสอบ สว. กลุ่มดังกล่าวด้วย จึงขอให้ DSI ตรวจสอบ สว. ตัวจริง 200 คน และ สว. สำรองอีก 100 คน ทั้งนี้ที่ DSI ใช้ AI สอบสวนคดีฮั้วพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกว่า 1,157 คน ถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า AI ดังกล่าวได้รับมาตรฐานหรือไม่ ไม่ใช่กล่าวอ้างว่ามีมาตรฐานเที่ยงธรรม

นายสิทธิกร ระบุว่าไม่ทราบว่า สว. กลุ่มที่มารับทราบข้อกล่าวหาเป็น สว. สีน้ำเงินหรือไม่ ส่วนที่มีการลงคะแนนเหมือนกัน ตนเองก็ไม่ทราบเพราะเป็นการลงคะแนนลับ

Related Posts

Send this to a friend