‘เศรษฐา’ ย้ำนายกฯ ‘เพื่อไทย’ พร้อมนั่งหัวโต๊ะ คุมราชการแก้ยาเสพติดจริงจัง

‘เศรษฐา’ ไม่ให้ราคาพรรคหาเสียงพรรคด้อยค่ากระเป๋าเงินดิจิทัล ย้ำนายกฯ ‘เพื่อไทย’ พร้อมนั่งหัวโต๊ะ คุมราชการแก้ยาเสพติดจริงจัง

วันนี้ (18 เม.ย. 66) เวลา 14:30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างลงพื้นที่หาเสียง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น

นายเศรษฐา กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอเน้นย้ำถึงปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ก่อนที่จะมาเข้าการเมือง เป็นเรื่องที่ส่วนตัวไม่ทราบมาก่อนว่า พี่น้องเดือดร้อนเรื่องนี้มาก และได้ฟังปัญหามาเยอะมาก มีทั้งผู้ป่วย ผู้ค้ายา และกระบวนการของรัฐที่ไม่ได้จัดการอย่างเต็มที่ หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาจะปราบปรามด้านยาเสพติดทั้งหมด และเป็นเรื่องที่มีหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นคนที่จะผลักดันตรงนี้ได้คือนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เราจะนั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ ในการบริหารจัดการเรื่องยาเสพติดให้หมดไป

เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่จะมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเป็นปัญหาและอุปสรรคในการจัดการเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ในรัฐบาลปัจจุบันเขาบอกว่าเป็นปัญหา แต่ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย อย่างที่ได้เรียนไปว่า หากนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องเข้ามา คงต้องเป็นเจ้าภาพในการนั่งหัวโต๊ะจัดการเรื่องนี้อย่างเข้มข้น

เมื่อถามว่า บนเวทีปราศรัยมีการเน้นย้ำเรื่องพรรคพี่พรรคน้อง แสดงว่ามีการแอบอ้างชื่อของพรรคเพื่อไทยในการไปหาเสียงและมีผลต่อคะแนนของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ไม่ทราบว่ามีผลหรือไม่ แต่มีการแอบอ้างแน่นอน ตรงนี้ขอให้ชัดเจนว่าเราไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง เมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 66) ส่วนตัวก็พูดชัดเจน ไม่มีการจับมือทั้งในสว่างและที่มืด

เมื่อถามต่อว่า จะมีการบอกอะไรไปถึงพรรคที่มีการแอบอ้างว่าเป็นว่าพรรคพี่พรรคน้องหรือไม่ เพราะมีการตีกินกระแสของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ตอบว่า ”ไม่ต้องหรอกครับ อย่าให้ราคาเลย เขารู้อยู่แล้วว่าเขาทำอะไรอยู่ และเราก็รู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไรอยู่ เราก็เดินหน้าต่อไปและหน้าที่ของผมก็คือการสื่อสารกับประชาชนว่าเราไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่มีการเลือกแพ็คคู่ ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งคนและพรรค”

เมื่อถามถึงกรณี ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าไม่เชื่อว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยจะทำได้ เพราะเงินงบประมาณ 200,000 ล้านบาทที่เหลือ ต้องเอาไปใช้ทำอย่างอื่นที่จำเป็น นายเศรษฐา ตอบว่า คิดว่าเขาเริ่มไปกันใหญ่แล้ว เมื่อครั้งก่อนก็บอกว่าของเราเป็นคริปโต วันนี้ก็มาเรื่องนี้แล้ว อย่าเลย ท่านมีนโยบายของท่านก็เสนอมา ส่วนตัวก็เดินหน้าเสนอให้ประชาชน

เมื่อถามว่า จะชี้แจงอย่างไรให้เขาเข้าใจเพราะล่าสุดพรรคพลังประชารัฐแถลงก็เป็นเรื่องของสกุลเงิน นายเศรษฐา กล่าวว่า “ถามมาผมก็ตอบไป ยิ้มแย้มแจ่มใสตอบไปได้เรื่อยๆ คงไม่มีอะไรที่ต้องให้ราคา”