อธิบดี DSI คนใหม่ เผย รมว.ยุติธรรมกำชับทำงานโปร่งใส-เร่งรัดคดีสำคัญ

อธิบดี DSI คนใหม่ แจง กรณี รัฐมนตรียุติธรรม มีคำสั่งย้ายมารักษาการแทน เผย ได้ทราบคำสั่งพร้อมสื่อมวลชน ไม่ทราบเหตุผลสั่งย้าย ด้านรัฐมนตรี กำชับ ทำงานโปร่งใส ตอบคำถามสังคมได้ และเร่งรัดคดีสำคัญ ยืนยัน ความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับดีเอสไอ ยังเป็นไปได้ด้วยดี
วันนี้ (19 ม.ค. 66) เวลา 10:00 น. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีหนังสือคำสั่งย้าย แทนที่นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ โดยระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะตนเองก็พึ่งทราบคำสั่งโยกย้ายเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ โดยรัฐมนตรียุติธรรม ได้เน้นย้ำเรื่องที่ ดีเอสไอเป็นผู้ดูแลอยู่ 2 ประเด็น ดังนี้
1.คดีที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ถูกกล่าวหาในการกระทำผิดจากกรณีที่ตกเป็นข่าว หรือกรณีอื่นๆ
2.กรณีที่ดีเอสไอ รับผิดชอบสำนวนคดีที่มีความสำคัญในหลายๆ คนดดี
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้ย้ำว่า ทั้ง 2 ประเด็นต้องทำให้เกิดความโปร่งใส และทำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อตอบคำถามของประชาชน และสังคมให้ได้อย่างชัดเจน รวมทั้งในทุกเรื่องจะต้องเร่งรัดคดีให้เร็วที่สุด อย่างกรณี Forex-3D ยิ่งจะต้องเร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะมีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมากร่วมหมื่นคน โดยตนได้ขีดเส้นตายไว้ว่า คดีนี้จะต้องทำให้แล้วเสร็จเพื่อสรุปสำนวน และมีคำสั่งส่งอัยการ ภายในไม่เกินกลางเดือนหน้า
ส่วนเหตุผลของการโยกย้ายนั้น พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้รับปฎิบัติ ซึ่งตนเองก็รู้สึกตกใจ และได้รับคำสั่งพร้อมๆ กับสื่อมวลชนเหมือนกัน ส่วนเรื่องเหตุผลคำสั่งการโยกย้ายของผู้บังคับบัญชาไม่สามารถทราบได้
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า ในเรื่องของราชการ ปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายของรัฐบาล คือสิ่งราชการที่ต้องปฏิบัติตาม แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่ถูกต้อง โดยกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญของดีเอสไอ ซึ่งตนเชื่อว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรต้องรอกระบวนการยุติธรรม แต่เรื่องนี้สร้างผลกระทบอย่างแน่นอนต่อรูปแบบการทำงาน และกระบวนการทางความคิดของเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ
อีกทั้ง ภายหลังมีคำสั่งของรัฐมนตรีออกมา ตนเองได้คุยกับ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอหลายๆ คนรวมทั้งระดับผู้บริหาร ทุกคนก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะทำงาน เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้
อย่างไรก็ดี พ.ต.ต.สุริยา กล่าวยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่าง หน่วยงาน ดีเอสไอ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นไปได้ด้วยดี โดยระบุว่า เรื่องขององค์กร ก็คือองค์กร ส่วนเรื่องตัวบุคคลก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล ซึ่งตนเองก็เคยเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ และรู้จักเคารพกับบุคลากรในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องของใครที่กระทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด โดยทางดีเอสไอก็พร้อมให้ความร่วมมือ และเปิดโอกาสให้ทุกหน่วยงานเข้าตรวจสอบ