’สุวัจน์‘ เผย มติพรรคชาติพัฒนา ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เหตุ พรรคเล็กสู้ยาก
’สุวัจน์‘ เผย มติพรรคชาติพัฒนา ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เหตุ พรรคเล็กสู้ยาก ยัน ยังอยู่พรรคต่อ ชี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ อดีต สส. ลงสมัครพรรคอื่น ด้าน ‘เทวัญ‘ ยังกั๊ก ไปเพื่อไทยหรือไม่ ขอเวลาประชุมหาข้อสรุปเย็นนี้
วันนี้ (18 ธ.ค. 68) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นำแถลงข่าวภายหลังพรรคชาติพัฒนาประชุมกรรมการบริหารพรรคนัดพิเศษ เพื่อหารือถึงทิศทางทางการเมือง โดยใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง 15 นาที เพื่อตัดสินใจในการเลือกผู้สมัคร สส. และแนวทางในการลงสมัคร ภายหลังยุบสภา และมีการประกาศการเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยน โดยมีข้อสรุป 4 ปัจจัย ดังนี้
ปัจจัยแรก คือ สถานการณ์การเมืองขณะนี้ค่อนข้างเข้มข้น ตนเองผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้ง ทุกครั้งเป็นการต่อสู้ของพรรคการเมือง 2 ขั้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการเมือง 3 ขั้ว เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล โดยมีการประเมินว่าการเมืองจะดุเดือดเข้มข้น เห็นได้จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งบ้านใหญ่ และบ้านเล็กย้ายพรรคค่อนข้างสูง เพื่อต้องการชัยชนะ
ปัจจัยที่สอง ด้วยกติกาการเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญ ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ เมื่อเริ่มออกสตาร์ท พรรคเล็กก็มีความเสียเปรียบ จากเดิมที่เสียเปรียบอยู่แล้ว
ปัจจัยที่สาม การยุบสภาค่อนข้างกะทันหัน มีเวลาที่จํากัด ซึ่งจะมีการรับสมัครภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 การเตรียมตัวต้องทำงานแข่งกับเวลา
ปัจจัยสุดท้าย ประเทศชาติมีวิกฤตหลายเรื่องที่เราต้องเผชิญ ทั้งปัญหาภายใน และภายนอกที่รุมเร้า ทําให้มองว่าต้องได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีการเมืองที่มีเสถียรภาพ มีคุณภาพ การเมืองที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการเมืองไทย และความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลใหม่ รวมถึงการเมืองที่มีระบบพรรคใหญ่

นายสุวัจน์ ระบุว่า จากทั้ง 4 ประการที่กล่าวมา การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคชาติพัฒนาจึงมีมติไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง สส. แต่สภาพความเป็นพรรคการเมืองยังคงอยู่ ซึ่งตามกฎหมายการเลือกตั้งสามารถเว้นการส่งลงสมัครได้ 2 ครั้งหรือไม่เกิน 8 ปี ส่วนอดีต สส. ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งถือเป็นดุลพินิจส่วนตัว หากมีความพร้อมในการลงเลือกตั้งก็ถือเป็นการตัดสินใจส่วนตัว ทั้งในส่วนของจังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี ว่าจะไปลงสมัครพรรคไหน
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ตนเองทําการเมืองมานานไม่ได้อยากลงสมัครเลือกตั้ง สส. แต่อยากอยู่เป็นกําลังใจ และทําประโยชน์ให้กับชาวนครราชสีมา ทั้งนี้ นายชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ระบุว่าขอให้ตนเองรักษาพรรคชาติพัฒนาต่อไป แม้พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้ง แต่พรรคจะยังอยู่กับการเมืองท้องถิ่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่น และตนเองคงไม่ไปไหน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคชาติพัฒนาจะไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายสุวัจน์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นมติพรรค แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนที่จะตัดสินใจ เช่น นายประสาท ตันประเสริฐ หรือกำนันอู๊ด ที่มาขอไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็พูดคุยและจากกันด้วยดี
ส่วนในฐานะ สส. หลายสมัย จะไปพูดคุยกับพรรคการเมืองไหนเพื่อปูทางให้ลูกพรรคเข้าไปร่วมหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนเองมั่นใจในความรู้ ความสามารถ และการยอมรับการทํางานพื้นที่กับประชาชน มั่นใจว่าการตัดสินใจอยู่ในจุดที่จะสามารถกลับมาเป็นผู้แทนราษฎรได้ เพราะเป็นสินค้าคุณภาพ เป็นคนดีมีความสามารถ เชื่อว่าทุกคนจะตัดสินใจถูกต้อง
เมื่อถามว่า ประเมินว่ากระแสตอนนี้พรรคไหนมีภาษีดีกว่ากัน นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่มีการหายใจรดต้นคอของ 3 พรรค มองว่าทั้ง 3 พรรคยังสูสีและอยู่ในระดับ 100 เสียงทั้งหมด เป็นการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุด เพราะเป็นการเมือง 3 ขั้ว ทุกคนต้องแย่งกันเพื่อชัยชนะสู่การเป็นรัฐบาล และ 3 พรรคใหญ่ จะเป็นผู้กุมชะตาการจัดตั้งรัฐบาล
นายสุวัจน์ ระบุอีกว่า ไม่ว่าสมาชิกพรรคจะได้เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่อง แต่ว่าต้องเป็น สส. กลับมา
ด้าน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต สส. นครราชสีมา ระบุถึงการตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคการเมืองใด ว่า จะต้องมีการคุยกันกับอดีต สส. ทั้งหมดในนครราชสีมา รวมถึงทีมงานทั้งหมด เนื่องจากทํางานในพื้นที่มาหลายปี แม้ไม่ได้เป็น สส. เมื่อมติพรรคเป็นแบบนี้ เราจะไปตัดสินใจว่าจะไปพรรคใด ซึ่งจากการถามความเห็น ทุกคนยังพร้อมที่จะลงสมัคร ขอเวลาในการหารือ พร้อมย้ำว่า กลุ่มอดีต สส. จะพากันไปเป็นทีม ไม่มีการแยกกัน และตอนนี้ยังไม่มีใครมาทาบทาม













