ปิดการประชุมต่อต้านสแกมเมอร์ สหประชาชาติ ชื่นชมไทยริเริ่มการประชุม
ปิดการประชุมต่อต้านสแกมเมอร์ สหประชาชาติ ชื่นชมไทยริเริ่มการประชุม หวังความร่วมมือในการปราบปรามมี FBI-Interpol ร่วมวงกับเอกชน เจ้าของแพลตฟอร์ม-การเงินดิจทัล และการคัดแยกเหยื่อกับผู้กระทำผิด
วันนี้ (18 ธ.ค.58) นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวผลการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 18 ธ.ค.68 ที่กรุงเทพมหานคร
นายวิชาวัฒน์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อสร้างความร่วมมือในการต่อต้านออนไลน์สแกมระหว่างประเทศ เพราะเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติซับซ้อนกับหลายประเทศทั่วโลก การประชุมครั้งนี้มีผู้ร่วมร่วมกว่า 300 คน และมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีและระดับสูง จากประเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมา ลาว และ รวันดา สะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบอย่างกว้างขวางจากออนไลน์สแกม กระทบทั่วโลก ทั้งทวีปเอเชีย อเมริกา และแอฟริกา
นายวิชาวัฒน์ เปิดเผยว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ ย้ำความสำคัญแก้ปัญหาออนไลน์สแกม ให้ทันท่วงที ขณะที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.กระทรวงดีอี กล่าวถ้อยแถลงในการประชมุระดับสูง ย้ำถึงการมีระบบธรรมาภิบาลเทคโนโลยีที่ดี และเน้นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในขณะดียวกัน
ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เลขาธิการสหประชาชาติ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวถ้อยแถลงที่สหประชาชาติให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาออนไลน์สแกม เพราะทำให้ความเสียหายมูลค่ามหาศาล ส่งให้เกิดกระทบอาชญากรรม ค้ามนุษย์และการฟอกเงิน ขณะที่ผู้แทน UNODC ได้ชื่นชมบทบาทนำของไทยในการปราบปรามออนไลน์สแกม แสดงความพร้อมของ UNODC ในการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พบปะ กับผู้เข้าร่วมประชุม และกล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ย้ำความสำคัญของเจตจำนงทางการเมืองในการต่อต้านออนไลน์สแกม เป็นวาระสูงสุด ที่ไทยแก้ไม่ได้ตามลำพัง จึงจำเป็นต้องส่งเสริมความร่วมมือที่เข้มแข็งทุกภาคส่วนเพื่อปราบปรามออนไลน์สแกม
นายวิชาวัฒน์ กล่าวว่าในการอภิปรายวงแรก ได้เน้นการอำนวยความยุติธรรม ผ่านแนวทางการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดี มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย เอฟบีไอของสหรัฐฯ อินเตอร์โพล และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน IOM และ UNODC ได้แลกเปลี่ยนกันถึงการอำนวยความยุติธรรมและเคารพสิทธิมนุษยชน การสืบสวนดำเนินคดี โดยจะยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง และมีความท้าทาย ในการคัดกรองผู้เสียหายออกจากผู้กระทำความผิด จึงเน้นให้การช่วยเหลือด้านกงสุลกับทุกชาติอย่างทันท่วงที
วงอภิปรายที่สอง เน้นการจัดการกับเส้นทางทางการเงินและการู้เท่าทัน และการรับมือการกระทำผิดโยเทคโนโลยี บริษัท Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม เอกชนที่เกี่ยวข้อง และสหภาพยุโรป หารือถึงบทบาทภาคเอกชน ภาคการเงิน ป้องกันการหลอกลวง ความพร้อมทางเทคโนโลยี เช่นการฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิตัล บทบาทสื่อออนไลน์ ในการตัดทอน ป้องกัน และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วน
นายวิชาวัฒน์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม รับรองแถลงการณ์ร่วมกรุงเทพ โดยหุ้นส่วนระดับโลก 2025 ซึ่งมีประเทศ เปรู บังคลาาเทศ สหรัฐอาหรับ เนปาล Tik Tok ร่วมสนับสนุนแถลงการณ์ร่วม สะท้อนฉันทามติว่า ทุกประเทศทุกภาคส่วนต้องเร่งความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ให้เท่าทันอาชญากรรมรูปแบบใหม่นี้ ที่เปลี่ยนรูปแบบตลอดเวลา การแลกเปลี่ยนหลักฐานดิจิตัล การคุ้มครองผู้เสียหาย และทำงานร่วมกับเอกชน ป้องกันการหลอกลวงอย่างเป็นระบบ
“การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ไทยได้แสดงบทบาทนำ ส่งเสริมอาชญากรรมหลอกลวง กระชับความร่วมมือพันธมิตร ออนไลน์สแกม ในหลายมิติ ต้องร่วมมือกับหลายภาคส่วน ให้ทันต่อการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ป้องกันไม่ให้คนไทยและประเทศอื่นๆตกเป็นผู้เสียหายจากปัญหานี้
ที่ประชุมรับรองแถลงการณ์ร่วมกรุงเทพ พร้อมมีข้อเสนอแนะ ที่จะเสริมสร้างความร่วมมืออนไลน์สแกม เช่นการจัดทำ SOP แนวปฏิบัติมาตรฐานปราบปรามออนไลน์สแกม การแต่งตั้งผู้ประสานงานระหว่างประเทศ การคุ้มครองคดี ทีมเฉพาะกิจ Task force ระหว่างประเทศ เพื่อต่อต้านออนไลน์สแกม โดยเครือข่ายสามารถนำไปใช้ได้ในกรอบอื่นๆ เพื่อต่อยอด แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ ต่อต้านออนไลน์สแกม
“ไทยไม่ได้ตั้งใจเปิดเวทีใหม่ แต่ริเริ่มให้มีพลวัต ที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เราไม่ได้บอกว่าการประชุมครั้งแรกที่ไทยจะหยุดเท่านี้ แต่เราเรียกร้องเชิญชวนประเทศต่างๆที่มาเข้าร่วมใครมีความประสงค์จะดประชุมย่อย ขอให้ดำเนินการได้เลย มีความสนใจอย่างมาก เราเชื่อแหละหวังว่า จะมีกิจกรรมต่อไป”
นายวิชาวัฒน์ กล่าวย้ำว่าในส่วนการปราบปราม ที่ประชุมหวังว่ากรอบที่ได้ทำวันนี้ได้เริ่มประสานความร่วมมือกรอบต่างๆเดินรุดหน้าไปมากยิ่งขึ้น ส่วนผู้ได้รับผลกระทบ มีการพูดกันมาก เราต้องแก้ไขปัญหามุ่งไปที่เหยื่อ เพื่อแยกได้ระหว่างเหยื่อกับผู้กระทำความผิดจริง หรือถูกหลอกไป ต้องทำด้วยความเข้าใจไม่ให้ถูกลงโทษซ้ำ












