รอง ผบช.ก. ขอเวลา 10 วัน คดี ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ – กฤษอนงค์’ ให้มีความชัดเจน
รอง ผบช.ก. ขอเวลา 10 วัน คดี ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ – กฤษอนงค์’ ให้มีความชัดเจน ด้านคดี ส. พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่เชื่อมโยงบัญชีเจ้าตัว อีก 10 ล้านบาท ชี้ หากดำเนินคดีไม่ได้ จ่อทำรายงานสอบสวนให้ DSI ในคดีฟอกเงิน
วันนี้ (18 พ.ย. 67) เวลา 10:35 น. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมชุดทำงานกรณีคลิปเสียบตบทรัพย์ของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และนายรัฐภูมิ คงโตทรัพย์ โดยระบุว่า วันนี้มีการประชุม 6 เรื่องที่สำคัญ ประกอบด้วยกรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ 4 เรื่อง มีในเรื่องของการเรียกรับ 300,000 กับ 450,000 บาท จนถูกออกหมายจับไปแล้ว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 คือเรื่องของนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ที่แจ้งความเรื่องหมิ่นประมาททั้งกับ น.ส.กฤษอนงค์ และนายรัฐภูมิ ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องของ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่แจ้งความเอาผิด น.ส.กฤษอนงค์ ในเรื่องหมิ่นประมาท และเรื่องที่ 4 เป็นเรื่องที่ น.ส.กฤษอนงค์ และนายรัฐภูมิ มีการเรียกรับเงินจากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล กับ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งในคดีนี้ผู้เสียหายจะมอบอำนาจให้ทนายความเดินทางมาแจ้งความในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย. 67)
เรื่องที่ 5 เป็นเรื่องของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอกสายไหมต้องรอด เรื่องนำพยานมาให้การเท็จ โดยมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณแล้ว 80-90% ถ้าไม่ติดปัญหาอะไร จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งขอให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณาทุกอย่าง ส่วนตัวพยานจะโดนด้วยหรือไม่ และจะเข้าข่ายในเรื่องอะไรบ้างนั้น ก็ให้ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการหารือร่วมกับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ก่อนว่าเนื้อหาในสำนวนมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้างหรือไม่ แต่ยืนยันว่า จะมีการดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างแน่นอน เนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกให้แก่สังคม
ส่วนเรื่องสุดท้าย คือเรื่องของนักการเมือง ส. ซึ่งได้ข้อมูลใหม่ เป็นการโอนเงินจากบัญชีแม่ของนาย ส. ไปถึงตัวของนาย ส. กว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 64-67 ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งหากถ้าไม่มีผู้ร้องทุกข์แจ้งความก็อาจจะดำเนินการได้ในฐานะที่นาย ส. เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็จะเข้าข่ายความผิดคดีอาญาทุจริต และจะต้องมีการนำไทม์ไลน์ของการโอนเงิน และระยะเวลาในการรับตำแหน่งมาตรวจสอบอีกครั้ง จึงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานในส่วนนี้ หากผลสรุปแล้วไม่สามารถดำเนินคดีได้ก็จะเขียนเป็นรายงานสืบสวนส่งให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินคดีข้อหาฟอกเงิน
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ในส่วนคดีของ นายรัฐภูมิ กับ น.ส.กฤษอนงค์ และเคสอื่นของ น.ส.กฤษอนงค์ ขอเวลาทำงาน 10 วัน เพราะต้องมีการเก็บพยาน และสอบปากคำพยานและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหลายปาก โดยในส่วนที่เป็นคดีของบอสดิไอคอนกรุ๊ปนั้น หากมีใบมอบอำนาจมาแจ้งความก็สามารถดำเนินการได้เลย โดยในส่วนนี้หากแจ้งความ อาจจะเป็นในส่วนของนิติบุคคลในนามบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งต้องมาถอดคลิปเสียง แล้วก็ต้องมาพิจารณา หากพบว่าเป็นการหลอกให้โอนเงิน 20 ล้านบาท ก็จะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกง แต่หากพบว่ามีการพูดข่มขู่ก็จะเข้าข่ายข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับต้องอยู่ในดุลพินิจการพิจารณากันอีกครั้ง












