ธัญวัจน์ชี้ คำวินิจฉัยกรณี ปพพ. ม.1448 นำไปสู่ทางตันของการแก้ปัญหา
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ และ ส.ส.พรรคก้าวไกล กว่า 10 คน ร่วมกันแถลงข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญ ลงความเห็นต่อกรณีกฎหมายสมรสจำกัดเฉพาะชายหญิงว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยพรรคจะขอคัดสำเนาคำวินิจฉัยฉบับเต็มมาศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยว่านำไปสู่ทางตันของปัญหาในสังคมและบ้านเมือง และพรรคก้าวไกลยืนยันที่จะเดินหน้าผลักดันให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1448 และมาตราที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจำนวน 69 มาตรา เพราะเชื่อมั่นว่าอำนาจการออกกฎหมายเป็นของรัฐสภา
พร้อมถอดประเด็นวินิจฉัยออกมามีนัยยะ 3 ข้อ คือ
1.บทบัญญัติมาตรา 4-5 ของรัฐธรรมนูญที่พูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งหากใครจะเข้าถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างจำเพาะเจาะจง และไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
2.บทบัญญัติมาตรา 27 เขียนหลักการที่รองรับความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งมีอยู่วรรคหนึ่งที่เขียนไว้ว่าชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และศาลไม่เห็นว่าในขณะนี้คำว่าเพศไปไกลกว่าคำว่าชายและหญิง
3. ความตอนท้ายที่ทำให้เกิดการตีความต่างกันว่า “กรณีจะคุ้มครองสิทธิ์หน้าที่ของผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรี รัฐสภาและหน่วยงานของรัฐ จะต้องไปตรากฎหมายหรือออกบทบัญญัติรองรับต่อไป” ซึ่งเกิดคำถามจากสังคมว่าเป็นการบีบหรือทำให้เกิดทางตันในการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่พรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขเพิ่มเติมไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563
ส่วนนายธัญวัจน์ ระบุว่าต่างประเทศกว่า 30 ประเทศมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมกัน ซึ่งโลกกำลังออกมารับความหลากหลาย ในฐานะ ส.ส.ตั้งเป้าจะทำความหวังในการจัดทำกฎหมายเกิดขึ้นจริง แต่มีคนพรากกฎหมายนี้ไป และเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมมือกันผลักดันการจัดทำร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และนายธัญญ์วาริน สุขพิสิษฐ์ อดีต ส.ส.แสดงความคลางแคลงใจกับคำวินิจฉัย พร้อมกับฝากความหวังที่พรรคก้าวไกลในการผลักดันจัดทำกฎหมายสมรสเท่าเทียมกัน ก่อนจะจับมือแสดงคำมั่นสัญญากับ ส.ส.ก้าวไกล












