POLITICS

‘ภูมิธรรม’ ชี้ เพื่อไทยสนับสนุนกระบวนการยุติธรรม รอศาลชี้ขาดคดีตากใบ

‘ภูมิธรรม’ ชี้ เพื่อไทยสนับสนุนกระบวนการยุติธรรม รอศาลชี้ขาดคดีตากใบ ระบุ พล.อ.พิศาล ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน เชื่อทุกเรื่องบนโลกมีบาดแผล ขอให้เป็นบทเรียน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแนวทางของพรรคเพื่อไทยในการส่งตัว สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ผู้ต้องหาคดีตากใบให้กับเจ้าพนักงานว่า เรื่องใดที่เป็นคดีความก็ตาม ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นเอกชน หรือข้าราชการ หรือใครก็ตาม ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่การเข้าสู่กระบวนการก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกคน จนกว่าศาลจะตัดสินคดี จึงจะเป็นที่สิ้นสุด

ส่วนกระแสเรียกร้องของภาคประชาชนในการให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ผู้ต้องหา เข้ามามอบตัว ตนเองยังไม่ได้พบ ถ้าได้พบก็จะพูดคุยปรับทุกข์กันว่าในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะไม่มีใครรู้เท่ากับ พล.อ.พิศาล ที่อยู่ ณ ที่นั้น และตัดสินใจ ณ ตอนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงเอง ไม่เหมาะที่ใครจะไปชี้แจงแทนได้ ตอนนี้ยังไม่เจอ ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์การปรับทุกข์ก็เป็นการพูดคุยในเรื่องที่คุยได้ ไม่ใช่การตั้งเป้าเอาความผิดไปให้ หรือการไปสอบสวน เป็นเรื่องที่เราควรเข้าใจคนทำงานและหาจุดที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่ามีการมองว่า พล.อ.พิศาล เป็นเตรียมทหารรุ่นพี่ของ นายทักษิณ ชินวัตร จะมีผลทำให้กระบวนการยุติธรรมสะดุดหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในกระบวนการพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองไหนก็ตาม มีหน้าที่ส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมทำตามสิ่งที่ถูกต้อง ในรายละเอียดเราไม่สมควรไปวิพากษ์วิจารณ์ถ้าไม่ทราบเรื่องจริง เพราะการวิจารณ์มากโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงอาจมีผลต่อสังคมที่ผู้ถูกกล่าวหาเสียหาย

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเกิดช่วงรัฐบาลไทยรักไทย แต่คงไม่มีผลกระทบ เพราะเราเคารพการตัดสินใจของศาลอยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลก็มีการตัดสินใจในการดูแลเยียวยาไปพอสมควร ถ้ายังเป็นประเด็นใหม่ที่อยากจะร้องค่อยว่าไปตามกระบวนการว่ามีเหตุมีผลอย่างไร และศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ระบุด้วยว่า ไม่กังวลว่าจะเป็นบาดแผลทางการเมืองตามที่หลายคนมอง เพราะทุกเรื่องในโลกนี้ รวมทั้งในประเทศไทย มีสิ่งที่เป็นบาดแผลและสิ่งที่น่าชื่นชม ฉะนั้นอะไรก็ตามไม่ควรจะมุ่งไปที่อดีตมากเกินไป คิดว่าอดีตเป็นบทเรียน ถ้าผิดพลาดก็ต้องทำไม่ให้ผิดพลาดอีก

“ผมเชื่อว่าการดำเนินการของทุกฝ่ายและทุกคนไม่ได้ตั้งใจให้เกิดโศกนาฏกรรมหรือปัญหา เพราะทุกคนตั้งใจทำตามหน้าที่ แต่เวลาชุลมุนก็อาจเกิดอะไรที่เกินเลยหรือหนักไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็ว่ากันไปตามกฎหมายถ้าเห็นว่าเกินขอบเขต”

Related Posts

Send this to a friend