พ.ต.อ.ทวี ชี้ กระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือก ต้องทันท่วงที และเป็นธรรม

พ.ต.อ.ทวี เปิดงานสัมมนาสัปดาห์การระงับข้อพิพาททางเลือก ชี้ กระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือก ต้องทันท่วงที และเป็นธรรม เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงความยุติธรรม
วันนี้ (18 ก.ย. 67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานสัมมนานานาชาติ สัปดาห์การระงับข้อพิพาททางเลือก ปี 2567 (Thailand ADR Week 2024) โดยมีวิทยากรที่จากทั่วโลก รวมถึงผู้แทนองค์กรเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เข้าร่วมงาน ณ โรงแรม อนันตรา สยาม ราชดำริ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า งานสัมมนาสัปดาห์การระงับข้อพิพาททางเลือก จัดครั้งแรกในปี 2561 ว่าด้วยเรื่องโอกาสใหม่ ๆ สำหรับ การบูรณาการระบบการระงับข้อพิพาททางเลือก ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับคณะกรรมาธิการสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายการค้าระหว่างประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในเรื่องการบูรณาการจะรวมหัวข้อกลไกกระบวนการระงับข้อพิพาท ระหว่างรัฐกับนักลงทุนต่างชาติ, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการระงับข้อพิพาททางเลือก และการบูรณาการกฎหมาย ว่าด้วยการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งยังคงมีความสำคัญเช่นเดิมอย่างที่เคยเป็นเมื่อปี 2561
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า โลกภายหลังโรคระบาดโควิด-19 ก่อให้เกิดปัญหาการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาต่าง ๆ และสถานการณ์ฉุกเฉินอาจก่อให้เกิดอุปสงค์จำนวนมากสำหรับสินค้าบางชนิดโดยฉับพลัน สถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องการการตอบสนองอย่างเข้มแข็งจากกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือก เพื่อการระงับข้อพิพาทได้อย่างทันท่วงที และเป็นธรรม จึงต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งกลุ่มกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกได้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ในสองแง่มุม
ทางแรก คือ การพัฒนาเทคโนโลยี นำมาปรับใช้กับกลไกการระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ เพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปช่วงโรคระบาดโควิด-19 ตลอดจนใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาคดีได้เสมือนจริง พร้อมด้วยกระบวนการที่ชอบธรรมและการป้องกันข้อมูลต่าง ๆ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในกระบวนการอนุญาโตตุลาการและการประนอมข้อพิพาท เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการได้อีกทางหนึ่ง
อีกหนึ่งปัจจัย คือ การเปลี่ยนแปลงของสภาวะสิ่งแวดล้อมอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระงับข้อพิพาททางเลือกสามารถพัฒนาในเรื่องการปรับเปลี่ยนกระบวนการให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดขึ้นจากการพิจารณาคดีแต่ละคดี ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางซึ่งเกิดผลต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคดีอนุญาโตตุลาการนอกศาลที่ไทยมีจำนวนกว่า 3,000 คดี ในปีที่ผ่านมา
“งานสัมมนาครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้มีการรวมตัวกันระหว่างผู้พิพากษา ผู้กำหนดนโยบาย สถาบันอนุญาโตตุลาการ ผู้ประกอบวิชาชีพการระงับข้อพิพาททางเลือก นักวิชาการ และผู้ใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทในเวทีเดียวกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญซึ่งจะกำหนดแนวทางสำหรับการระงับข้อพิพาททางเลือกต่อไป ซึ่งรวมถึงประเทศไทยเช่นเดียวกัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว