POLITICS

‘พร้อมพงศ์’ ร้องสอบจริยธรรม ‘ประวิตร’ ขาดประชุมมากกว่า 80%

เตือนให้ระวังคนใกล้ชิดหักหลัง มองเป็นสิทธิ ‘ไพบูลย์’ ฟ้องกลับ ท้าตั้งโต๊ะแถลงข่าวแจงที่มาคลิป ไม่ใช่ฟ้องสื่อแก้เกี้ยว

วันนี้ (18 ก.ย.67) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการเข้าร่วมประชุมสภาฯ ของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพพลังประชารัฐ ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับประมวลจริยธรรมของ สส. หรือไม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าพลเอกประวิตร ไม่เคยโหวตนายกฯ ทั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รวมทั้งเวลาที่สภาฯ มีการลงมติสำคัญราว 16 มติ พลเอกประวิตร ไม่ได้ลงมติถึง 13 ครั้ง รวมแล้ว 81.25% หากเป็นแบบนี้การทำหน้าที่ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อน่าห่วง ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมกับพลเอกประวิตร ตนเองจึงต้องมาสอบถามประธานสภาฯ เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าสมาชิกภาพ สส.จะสิ้นสุดลงเมื่อไม่เคยประชุมเกิน 1 ใน 4 ในสมัยประชุมที่มีการกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน โดยได้รับอนุญาตจากประธานสภาฯ แล้ว

การทำหน้าที่ของ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นแคนดิเดตนายกฯ ความรับผิดชอบทางการเมืองต้องสูงกว่านักการเมืองปกติ เพราะ สส.เป็นตัวแทนประชาชน ทำหน้าที่ 1 ใน 3 อำนาจคือฝ่ายนิติบัญญัติ วันนี้พลเอกประวิตร ทำหน้าที่ครบถ้วนหรือไม่ เพราะ สส.และผู้ติดตาม สส. มีเงินเดือนรวมกันมากว่า 2 แสน รวมค่าเดินทาง และเบี้ยประชุมกรรมาธิการต่าง ๆ สงสัยว่าทำงานคุ้มค่าหรือไม่ หากมี สส.ท่านอื่น ตนเองก็จะตรวจสอบเช่นกัน ทั้งพรรคฝ่ายค้าน และพรรครัฐบาล ตนเองก็ตรวจสอบรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย ขอให้ทุกคนสบายใจ ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้เข้าประชุมสภาฯ นั้น ถ้ามีประชาชนร้องมาตนเองก็ตรวจสอบ

นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่าการร้องครั้งนี้ไม่ได้หวังผลการเมือง หวังเพียงให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ส่วนคลิปเสียง ตนเองไม่ได้ให้ใครไปอัดเสียงได้ คนที่อัดเสียงได้คือคนใกล้ชิด บริวารเป็นพิษหรือคนใกล้ชิดทรยศหักหลัง ลุงต้องไปดู เพราะคลิปที่เป็นเสียงปลัดกระทรวงมหาดไทย ท่านยืนยันว่าพูดจริงกับพลเอกประวิตร ตอนเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงไทย ต้องให้ ป.ป.ช. ป.ป.ง. กกต. ตรวจสอบการทำหน้าที่ในสภาฯ ของพลเอกประวิตร

ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะฟ้องกลับตนเองนั้น ก็เป็นสิทธิของนายไพบูลย์ สิทธิในฐานะประชาชน อีกทั้งมีคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีฟ้องหมิ่นประมาท สามารถเป็นหลักฐานได้ในศาล นายไพบูลย์ พูดแต่กฎหมายที่เข้าข้างตัวเองแต่ครึ่งหนึ่งไม่อ่าน ยืนยันว่าไม่กังวล เชื่อว่า นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ (หมาแก่) ผู้ดำเนินรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ขอให้ฟ้องสักร้อยล้าน แต่อย่าฟ้องรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. เพราะเขาไม่เกี่ยว อีกทั้งตนเองทำตำแหน่งนักร้องมานาน ไม่เหมือนนักร้องบ้านป่าที่ร้องเพียงแค่ประเด็นเกี่ยวกับพลเอกประวิตร

“การร้องสอบพลเอกประวิตรครั้งนี้ เพราะผมเป็นตัวแทนของประชาชน เมื่อร้องมาผมก็รับฟังความคิดเห็น อยากให้ลุงป้อมมาที่รัฐสภา มายื่นกระทู้ไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันนี้ถือว่าเป็นฝ่ายค้านที่เป็นพรรคอันดับ 2 ในสภาฯ มาทำหน้าที่หน่อย“

นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่าไม่รู้ใครเป็นคนปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว พร้อมถามกับผู้สื่อข่าวว่า เคยเข้าบ้านป่ารอยต่อหรือไม่ บางคนอาจจะเคย แต่ตนเองไม่เคย แล้วไม่เคยรู้จักกับพลเอกประวิตรเป็นการส่วนตัว แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ C11 ก็ได้ยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง และผู้ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีจะไปแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงไม่ได้

ถ้าให้ตนเองแนะนำพลเอกประวิตร เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก คงมีลูกน้องมาก เช่น ฝ่าย เสธ.ที่เกษียณไป แต่ตนเองคิดว่าน่าจะต้องหาข่าว เพราะผู้ที่อัดเสียงคือบริวารเป็นพิษ คนใกล้ชิดทรยศหักหลัง และต้องพิสูจน์ความสามารถของนายไพบูลย์ เลขาธิการพรรคคนใหม่ว่าจะมีคุณภาพของพรรคฝ่ายค้านอันดับ 2 ในสภาฯ หรือไม่

ขอย่าไปฟ้องร้องคนอื่น แต่เร่งทำความจริงให้ปรากฏ ตนเองอยากให้พลเอกประวิตร นายไพบูลย์ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าคลิปนี้จริงหรือปลอม แทนที่จะฟ้องสื่อมวลชนแก้เกี้ยวเหมือนปิดหูปิดตาประชาชน

Related Posts

Send this to a friend