POLITICS

ศธ.-สช. ลงนาม MOU ธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา ดูแลสุขภาพนักเรียนครบ 4 มิติ

ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นกรอบทิศทาง หรือข้อตกลงร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองภายในสถานศึกษา ในการสร้างสุขภาพ ทั้ง 4 มิติ คือ กาย จิต ปัญญา และสังคม ให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาและชุมชน ตามกรอบธรรมนูญ ว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2565

ดร.อรรถพล กล่าวว่า “กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ซึ่งการพัฒนาศักยภาพเยาวชนนั้น เก่งและดียังไม่เพียงพอ ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย จึงได้มีการลงนามบันทึก ข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อน ธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา โดยเป้าหมายสำคัญที่ ศธ.มุ่งหวังคือให้ทุกสถานศึกษาทั่วประเทศ มีธรรมนูญสุขภาพของตนเอง ซึ่งจะดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกันทั้งสถานศึกษา สมาคมผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานเอกชน ทำให้ผู้เรียนของเราทั้งในระบบ และนอกระบบทุกระดับชั้น จำนวน 10,516,125 คน (ปีการศึกษา 2565) ได้รับการดูแลสุขภาพที่ดี มีความรอบรู้ มีทักษะ และมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ ส่วนสถานศึกษาก็จะมีสภาพแวดล้อม ที่มีสุขภาวะชัดเจนมากขึ้น สมดังเจตนารมณ์ของกรอบธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2565”

“ด้านบทบาทของ ศธ.จะดำเนินการนำเป้าหมายและมาตรการ ของธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2565 ไปใช้เป็นกรอบทิศทาง นโยบายด้านสุขภาพของ ศธ. เน้นแนวคิดทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ หรือ Health in All Policies (HiAP) มีการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาให้ผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครองมีความรอบรู้ มีทักษะ และมีพฤติกรรมพึงประสงค์ด้านสุขภาพ โดยบูรณาการกับการจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งสนับสนุนให้สถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัด จัดทำธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ขยายผลออกไปในวงกว้าง จากนักเรียนไปสู่ครอบครัว ชุมชน และสังคมของตนเอง ให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ในการดูแลสุขภาพในทุกมิติ”

ขณะที่ นพ.ประทีป เปิดเผยว่า “เด็ก เยาวชน และสถานศึกษา เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนไทย ให้มีความพร้อมทั้งกาย จิตใจ สติปัญญา และมีสุขภาพที่ดี ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เพื่อเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพตามทิศทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งภายใต้กรอบของธรรมนูญ ว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การทำสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ ให้เอื้อต่อการมีสุขภาพดี และการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ในทุกกลุ่มวัยและทุกระดับ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายระบบสุขภาพและสังคมที่เป็นธรรม”

“ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2565 จะสามารถส่งเสริมกระบวนการ มีส่วนร่วมของครู นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อจัดทำธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา เป็นกรอบและทิศทางในการสร้างสุขภาวะภายในโรงเรียน เช่น การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านอาหารและเครื่องดื่ม และการจัดการระบบดูแลสุขภาพ ของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารให้คนในสังคมเข้าใจกรอบ และแนวทางของระบบสุขภาพไทย ตลอดจนใช้อ้างอิงเพื่อพัฒนาตัวชี้วัดระบบสุขภาพไทยด้วย”

Related Posts

Send this to a friend