POLITICS

‘ชูศักดิ์‘ เสนอแก้ พ.ร.บ.ประชามติ ‘เพื่อไทย’ มองทั้ง 4 ร่าง มีจุดร่วมลดขนาดเสียงข้างมากลง

‘ชูศักดิ์‘ เสนอแก้ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ 64 พรรคเพื่อไทย มองทั้ง 4 ร่าง มีจุดร่วมลดขนาดเสียงข้างมากลง

วันนี้ (18 มิ.ย. 67) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ…. โดยมีผู้เสนอร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว รวม 4 ฉบับ คือ ฉบับของคณะรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคภูมิใจไทย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น เพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ด้วยหลักการและเหตุผล ดังนี้

1.กำหนดให้หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเลือกตั้งทั่วไป หรือหากมีการกำหนดวันเลือกตั้งสภาท้องถิ่นผู้บริหารท้องถิ่นเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบวาระในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการออกเสียงอาจกำหนดให้วันออกเสียงเป็นวันเดียวกันกับการเลือกตั้งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 11 วรรคสาม

2.กำหนดให้การออกเสียงให้กระทำโดยใช้บัตรออกเสียง หรือการออกเสียงทางไปรษณีย์ หรือเครื่องลงคะแนนออกเสียงอิเล็กทรอนิกส์ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 12

3.กำหนดให้การออกเสียงให้ถือเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงโดยคะแนนเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่จะทำประชามติแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13

4.ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องจัดให้มีการแสดงความเห็นโดยอิสระ และเท่าเทียมกันทั้งผู้ที่เห็นชอบ และไม่เห็นชอบในเรื่องที่จะทำประชามติแก้ไขเพิ่มเติมมาตรามาตรา 16 วรรคหนึ่ง

เหตุผลของการแก้ไขเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ คือ การออกเสียงประชามติห้ามตรงกับวันเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ต้องกำหนดวันออกเสียงแยกต่างหาก ทั้งที่อาจอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ย่อมเป็นการเพิ่มภาระงาน และงบประมาณแผ่นดินในการจัดการออกเสียงและเป็นภาระกับประชาชนที่ต้องมาใช้สิทธิ์หลายครั้ง จึงอาจกำหนดให้การออกเสียงเป็นวันเดียวกันกับการเลือกตั้งได้ และวิธีการออกเสียงจากเดิมที่กำหนดไว้ให้ใช้บัตรเป็นหลัก

ส่วนวิธีการออกเสียงโดยวิธีอื่น เป็นเพียงทางเลือกที่คณะกรรมการกำหนดให้ มิได้เป็นการกำหนดวิธีการออกเสียงที่สามารถกระทำได้โดยวิธีการต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนดเพื่อความสะดวกของประชาชนผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียง นอกจากนั้น ยังให้มีการแก้ไขผลของการออกเสียง ที่ถือว่ามีข้อยุติต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงจำนวนกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงในเรื่องที่จะทำประชามติ เห็นว่า ไม่ควรแยกประเภท เพราะออกเสียงเพื่อให้มีข้อยุติหรือเป็นการแสดงความคิดเห็นให้แก่คณะรัฐมนตรีจึงถือเป็นกระบวนการเดียวกันและใช้งบประมาณจำนวนมากไม่คุ้มค่ากับงบประมาณหักจากการออกเสียงเป็นเพื่อการปรึกษาและหากกำหนดให้ผลการออกเสียงต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงและต้องมีจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้ที่มาใช้สิทธิ์ออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้นจึงเห็นว่าเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติเนื่องจากว่าการออกเสียงประชามติต่างจากการเลือกตั้งที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแปรในการหาเสียงและรณรงค์ให้คนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งซึ่งหลายครั้งยังพบว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ถึงกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

การออกเสียงประชามติเป็นการสอบถามประชาชนในประเด็นใดประเด็นหนึ่งซึ่งประเด็นนั้นอาจ ไม่ได้อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยทั่วไปจึงไม่ควรนำประเด็นนี้มาเป็นผลต่อการออกเสียงและควรแก้ไขการออกเสียงเป็นเสียงข้างมากของผู้ออกเสียง ซึ่งต้องสูงกว่าผู้ไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องการทำประชามติสอดคล้องกับการออกเสียงประชามติในร่างธรรมนูญปี 2560

ร่างทั้ง 4 ร่าง มีวัตถุประสงค์หลักของการแก้ไข พ.ร.บ. คือการกำหนดเสียงชี้ขาด เสียงข้างมากเด็ดขาด ตามที่กำหนดไว้ แต่เดิมตามในมาตรา 13 ของกฎหมายประชามติ 2564 ร่างจึงขอแก้ไขในบางมาตรา ซึ่งมีลักษณะเหมือนกันคือการลดขนาดการออกเสียงที่เป็นเสียงข้างมากเด็ดขาดลงมา และขอให้กำหนดวันออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกับการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือการเลือกตั้งแบบทั่วไปหรือการเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อลดภาระงบประมาณรายจ่ายรวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายกับพี่น้องประชาชน

Related Posts

Send this to a friend