POLITICS

‘ธนาธร’ ดีเบตเชียงใหม่ ชี้ทุกพรรคเห็นตรงกันปัญหาเชิงประเด็น

แนะแก้ที่ต้นตอโครงสร้าง ย้ำดูที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีดีเบตที่จัดโดยสถานีโทรทัศน์ช่องวัน บริเวณหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่ โดยคำถามแรกเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ธนาธร กล่าว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีมาตั้งแต่เลือกปี 2562 แล้ว ตอนหาเสียงครั้งแรกก็เจอคำถามนี้ 4 ปีที่ผ่านมาหนักกว่าเดิม หากดูการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเมียนมา จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นทุกปี ปี 2561 ใกล้เคียงกับ 0 บาท ปี 2562 นำเข้า 4,200 ล้านบาท ปี 2563 นำเข้า 7,500 ล้านบาท ปี 2564 นำเข้า 1,200 ล้านบาท ปี 2565 นำเข้า 14,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน นี่คือกำไรของนายทุนที่แลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และสุขภาพของประชาชน ถ้าจะแก้ไขเรื่องนี้ ต้องกล้าชนนายทุน ตัดวงจรการเผา หยุดผลักภาระให้ประชาชน

“เริ่มที่หัว ถ้าหัวไม่ทุจริต หางก็ไม่ทุจริต และต้องไม่อยู่ในระบบอุปถัมภ์อย่างนั้น ถ้าเข้าไปอยู่ในระบบอุปถัมภ์ เข้าไปมีอำนาจก็ต้องทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้นต้องเอาคนนอกเข้าไป คนที่ไม่เคยทำงานการเมือง ไม่มีบุญคุณต้องทดแทนใคร ต้องเป็นคนใหม่ที่มีความกล้าหาญถึงจะจัดการทุจริตได้” ธนาธร กล่าว

เมื่อถูกถามถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ธนาธร กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด ถามประชาชนมีคนเชื่อจริง ๆ ไหม ที่นักการเมืองรายหนึ่งถูกอภิปรายกลางสภาฯ เรื่องความเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติด แล้วกล่าวว่า ‘มันคือแป้ง’ พรรคไหนโหวตไว้วางใจให้กับนักการเมืองรายดังกล่าว ยกตัวอย่างความกล้าหาญของรังสิมันต์ โรม ที่กล้าทลายทุนจีนสีเทา พูดถึงทุน มิน ลัต และตั้งคำถามถึงพรรคการเมืองที่มีส่วนกับยาเสพติด ดังนั้นจะแก้ปัญหายาเสพติด ต้องทำให้เหมือนที่พูด หากบอกไม่เอายาเสพติด แต่กลับโหวตไว้วางใจให้นักการเมืองที่เกี่ยวกับยาเสพติด แบบนี้ต่างหากที่ตบหน้าประชาชน

กรณีการกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ธนาธร กล่าวไว้ว่า “คุณทักษิณทำผิดหรือทำถูก ไม่ใช่หน้าที่ที่ผมต้องตัดสิน แต่สิ่งที่สังคมศิวิไลซ์มี คือสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งคุณทักษิณไม่ได้รับสิทธินั้น คุณทักษิณสมควรได้รับสิทธิพื้นฐานเหมือนกับคนไทยทุกคน นั่นคือสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะทำเช่นนั้นได้มีอยู่ทางเดียว ต้องมีการล้มล้างผลพวงรัฐประหาร ถ้าทำได้จะไม่เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต ทุกคนที่มีคดีความทางการเมืองจะได้รับสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นล้มล้างผลพวงรัฐประหาร ทำให้การรัฐประหารไม่มีวันเกิดขึ้นอีกในสังคมไทยให้ได้”

ช่วงท้ายของการดีเบต ธนาธร กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองต่างเห็นตรงกันถึงปัญหาเชิงประเด็น แต่ตั้งคำถามต่อว่า เหตุใดปัญหาเชิงประเด็นทั้งหมดจึงไม่ถูกแก้ไข เพราะแท้จริงคือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ประชาชนมีอารมณ์ร่วมกับปัญหาในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาการเรียกร้องประชาธิปไตยมีคนถูกยิงตาย มีคนถูกจับเข้าคุกเพียงเพราะพูดความจริงที่หลายคนไม่อยากฟัง

“จะพาประเทศไทยไปต่อข้างหน้าได้ มีแต่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง คือการปฏิรูปกองทัพที่ไปไกลกว่าการยกเลิกเกณฑ์ทหาร แต่ต้องเอาทหารออกจากการเมือง ปฏิรูประบบราชการเพื่อยกเลิกการรวมศูนย์ เปิดโอกาสให้ทุกจังหวัดเลือกผู้ว่าของตัวเอง กระจายงบประมาณอย่างเป็นธรรม ปฏิรูปโครงสร้างทุนผูกขาดที่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นการกระทำ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่จะแก้ปัญหาประเทศไทยในระยะยาวได้” ธนาธร กล่าว

Related Posts

Send this to a friend