POLITICS

‘ธนาธร’ แจงปมไลฟ์สดวิจารณ์วัคซีน-ที่ดินราชบุรี

รู้สึกเจ็บปวดถูกกล่าวหาโกงชาติ-โกงแผ่นดิน พร้อมเปิดข้อมูลที่ดิน ส.ส. 50 ราย รุกล้ำพื้นที่ป่า ชี้ รัฐต้องบังคับใช้ กม.อย่างเท่าเทียม

วันนี้ (18 เม.ย.65) ที่อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวชี้แจงเรื่องคดีความมาตรา 112 และการถูกเพิกถอนสิทธิ์ที่ดินราชบุรี โดยตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกครั้ง มักมีข่าวในเชิงเสียหาย ทำลายความน่าเชื่อ และทำลายศรัทธาจากประชาชน จึงขอชี้แจงเกี่ยวกับสถานะของคดีมาตรา 112 ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 3 คดี ได้แก่ 1.ไลฟ์สดวัคซีนพระราชทาน “ใครได้-ใครเสีย” ปัจจุบันอัยการสั่งฟ้อง และศาลอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว 2.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอศาลให้ลบคลิปวัคซีนพระราชทานจากระบบอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันศาลฎีกาพิพากษาเป็นคุณ แต่ชั้นอุทธรณ์ ศาลกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จึงขอยื่นฎีกาไป จนถึงวันนี้คลิปวัคซีนพระราชทานก็ยังอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต 3.คดีที่ให้การในศาล และโจกท์ได้ยื่นฟ้องเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ในชั้นสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายธนาธร ชี้แจงว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนคิดค้นคำว่า “วัคซีนพระราชทาน” ขึ้นมา แต่คำนี้ถูกคิดค้นและประชาสัมพันธ์โดยฝ่ายรัฐบาล การไลฟ์วัคซีนพระราชทาน จึงต้องการนำเสนอว่า การที่เราแทงม้าวัคซีนตัวเดียว ทำให้ไม่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงที จวบจนวันนี้พิสูจน์แล้วว่าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพคือ mRNA ซึ่ง เป็นวัคซีนที่รัฐบาลเลือกฉีดให้ประชาชนเป็นหลัก

ขอยืนยันอย่างบริสุทธิ์ใจว่า การพูดเรื่องวัคซีนครั้งนั้นเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนตัวไม่ได้ท้อถอย หรือหนักใจ ขอบคุณทุกกำลังใจ พร้อมยืนยันว่า คดีนี้จะไม่ทำให้หยุดพูดในสิ่งที่สังคมควรได้รู้

นายธนาธร ชี้แจงคดีที่ดินราชบุรีว่า เป็นเรื่องที่เจ็บปวดต่อทั้งตนเอง และครอบครัวที่ถูกตราหน้าโกงชาติ โกงแผ่นดิน โกงป่า โดยลักษณะการซื้อที่ดินดังกล่าวเป็นการซื้อทั้งผืนต่อจากบริษัทมิตรผล และไม่เคยวิ่งเต้นให้เปลี่ยนรูปแบบกรรมสิทธิ์ถือครอง เป็น นส. 3 ก.มาตั้งแต่ต้น หากเข้าไปดูในพื้นที่จะเห็นว่า ที่ดินดังกล่าวยังดำรงสภาพเป็นป่า

หากไล่เรียงลำดับเหตุการณ์จะเห็นว่าคดีนี้มีความเกี่ยวพันกับที่พรรคก้าวไกลอภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ บุญญามณี เกี่ยวกับการกว้านซื้อที่ดินใน อ.จะนะ ของเครือญาติ ที่อาจเข้าข่ายการหาผลประโยชน์ เมื่อเดือน ก.พ.64 ต่อมา 5 พ.ย.64 พรรคก้าวไกลยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ปมนายนิพนธ์ขาดคุณสมบัติการเป็น รมต. เนื่องจากถูกให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ. กรณีทุจริต และยังได้ยื่นซ้ำอีกครั้งในวันที่ 19 ม.ค.65 จากนั้นนายนิพนธ์ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดพิเศษสอบปมถือครองที่ดินราชบุรีของครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ

นายธนาธร เปิดเผยว่า นายนิพนธ์เมื่อครั้งเป็น นายก อบจ.สงขลาได้ผลักดันพื้นที่ในจังหวัดสงขลาให้เป็นนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งพบว่าเครือญาติของนายนิพนธ์มีการซื้อที่ดินน่าสงสัย 48 ธุรกรรม เป็นผู้ซื้อ-ผู้ขายรายใหญ่ กลุ่มทุนนายหน้า ที่มีความสัมพันธ์แบบเครือญาติกับนายนิพนธ์ เมื่อมีมติ ครม.อนุญาตให้พื้นที่ของเครือญาตินายนิพนธ์เป็นนิคมอุตสาหุตสาหกรรมจะนะ จึงมีการขายที่ดินให้กลุ่ม TPIPP ขายราคาเฉลี่ย 400,000-600,000 บาทต่อไร่

“ตลอดการทำธุรกิจของผม และคุณแม่ตลอด 20 ปี ไม่เคยขึ้นโรงขึ้นศาล ยืนยันว่าทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส ไม่เคยเอาเปรียบคู่ค้า ผมจึงเจ็บปวดที่ถูกกล่าวหาว่าโกงพื้นที่สาธารณะ”

ทั้งนี้หลังมีคดีที่ดินราชบุรี จึงไปตรวจดูการสำแดงทรัพย์สินของรัฐมนตรี และ ส.ส. พบ มีอย่างน้อย 50 คน ที่ถือครองพื้นที่ป่าในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ยกตัวอย่างที่ดินของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล โฉนดเลขที่ 5856 อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จำนวน 248 ไร่ และโฉนดเลขที่ 609 อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา จำนวน 10 ไร่

นอกจากนี้ยังพูดถึงที่ดินเขายายเที่ยงของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่พบว่าเป็นพื้นที่ป่า ท้ายที่สุดต้องคืนพื้นที่ให้รัฐ และอัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะเห็นถึงความไม่ตั้งใจในการบุกรุกพื้นที่ป่า ดังนั้นจึงควรบังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาค และเท่าเทียมกับทุกคน ไม่ใช่ใช้กฎหมายทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง

นายธนาธร ยืนยันว่า ตลอดการทำงานที่ผ่านมา ได้มุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยให้มีประชาธิปไตย ไม่เคยคิดจะแสวงหาประโยชน์ใส่ตนเอง ไม่เคยคิดจะเอาอำนาจมาสร้างประโยชน์ให้พวกพ้อง เสียใจที่มองว่าเราเป็นคนที่โกงกิน โดยสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่สามารถยุติการทำงานของเราได้ แม้จะเสียสมาธิในการทำงานบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้หวาดกลัว

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่มีคนเชื่อมโยงพรรคก้าวไกลกับคดีล่วงละเมิดของ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายธนาธร ขอสงวนความเห็น เพราะไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่มองว่าก้าวไกลไม่เล่นเกมการเมือง พร้อมทิ้งท้ายว่า จากกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ เห็นแล้วว่า พรรคก้าวไกลเดินต่อไปได้โดยไม่ต้องมีปิยบุตร ธนาธร และพรรณิการ์ เห็นแล้วว่า การอภิปรายในสภาฯ ของพรรคก้าวไกลมีคุณภาพ และเป็นประโยชน์กับประชาชน หวังว่าพรรคก้าวไกลจะอยู่ยืนยาว

Related Posts

Send this to a friend