มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ติดตามความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ

ธัญวัจน์ – ขัตติยา รับหนังสือจากตัวแทนมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ติดตามความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ หลังถูกปิดรับความคิดเห็นตั้งแต่ พ.ย.

วันนี้ (18 ม.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ น.ส.ขัตติยา สวิสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รับหนังสือจาก น.ส.ชัชลาวัณย์ เมืองจันทร์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองการให้บริการทางเพศ ที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ หลังร่างดังกล่าวได้หยุดการรับฟังความคิดเห็นไปในช่วงพฤศจิกายน โดยไม่ทราบสาเหตุ

น.ส.ชัชลาวัณย์ กล่าวว่า แช่แข็งกฎหมายมันแช่ได้ แต่ชีวิตของคนที่เป็นเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ไม่ได้หยุดเดือดร้อนตามไปเหมือนกฎหมาย จึงรวมตัวกันมาผลักดัน และถามหาร่างฉบับดังกล่าวไปถึงไหนแล้ว อยากเรียกร้องถึงพรรคการเมือง รวมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้จัดทำร่างตามไทม์ไลน์เดิม เพื่อให้เกิดการศึกษาและพิจารณาไปสู่ลำดับถัดไป

นอกจากนี้ ยังต้องการให้ร่างดังกล่าว ทำให้พนักงานบริการทางเพศไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป และได้รับการคุ้มครองเหมือนแรงงานอื่น ๆ ซึ่งร่างนี้จะเป็นร่างที่มุ่งเน้นที่ ‘การคุ้มครอง’ ไม่ใช่ ‘การควบคุมหรือจำกัด’ การใช้ชีวิตของกลุ่มผู้ค้าบริการทางเพศ

ธัญวัจน์ กล่าวว่า สถานะผู้ให้บริการทางเพศในไทย ยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายซึ่งสวนทางกับความเป็นจริง กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้เกิดการรีดไถจากเจ้าหน้าที่รัฐ รีดไถส่วย ทั้งตัวพนักงานบริการ และสถานประกอบการ สิ่งหนึ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการทำ และยื่นกฎหมาย คือ การยื่นร่าง พ.ร.บ.บริการทางเพศ และคุ้มครองผู้ให้บริการ โดยสาระสำคัญจะต้องเกิดจากความสมัครใจเท่านั้น ปัจจุบันมีข้อเสนอ 2 อย่าง คือ

1.การยกเลิกป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี

2.การยกเลิกป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี และคุ้มครองผู้ให้บริการ

จากการศึกษาพรรคก้าวไกล พบว่า การยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ไม่สามารถทำให้อาชีพบริการทางเพศปลอดภัย เพราะยังมีการค้าประเวณีที่ผิดกฎหมายอาญา อีกทั้งยังมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อยู่ สิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการพิจารณาคือ ทำอย่างไรให้การค้าประเวณีตามคำสั่งของกฎหมายที่ไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์

ธัญวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ พนักงานบริการทางเพศต้องเกิดจากความสมัครใจเท่านั้น และพนักงานบริการทางเพศต้องมีอำนาจต่อรองกับสถานประกอบการ ที่มีแนวคิดเป็นระบบธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าการค้าบริการทางเพศไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ ไม่มีการกักขังเพื่อการค้าประเวณี

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะทำอาชีพอะไร ทุกคนควรได้รับสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานจากรัฐ เราพูดถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี กันอยู่แล้ว และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็มีความสนใจ และพูดถึงการทบทวนกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะติดตามความคืบหน้าของร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าติดอะไรอยู่ และถ้าเป็นไปได้ จะนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จากบนโต๊ะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. มาอยู่ในสภาฯ เพื่อรับการพิจารณาโดยเร็วที่สุด