‘สมศักดิ์’ คาดสาเหตุโรงงานพลุระเบิด เพราะสารตัวเร่งสันดาปกับดินระเบิด
‘สมศักดิ์’ แสดงความเสียใจเหตุโรงงานพลุระเบิด คาดเพราะสารตัวเร่งสันดาปกับดินระเบิด นัดประชุมทุกหน่วย แก้ระเบียบใบอนุญาตพรุ่งนี้ รับปากเร่งเยียวยาครอบครัวละ 3 แสน
วันนี้ (18 ม.ค. 67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี เมื่อวานนี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยระบุว่า สาเหตุของการเกิดเหตุครั้งนี้ เพราะโรงงานพลุมีวัตถุระเบิด มีดินปืนที่เป็นตัวจุดระเบิดได้ แต่สิ่งที่ทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายเป็นเพราะตัวเร่ง โพรเทสเซียมคลอเลต (KClo3) เป็นสารแคตตาไลท์ เมื่อมีดินระเบิดทำให้เกิดการสันดาป เกิดแรงระเบิด แรงอัดที่ทำให้ผู้อยู่ในบริเวณเสียชีวิตอย่างกระทันหัน เป็นความสูญเสียที่เกิดแล้วเกิดเล่า ทุกปี
นายสมศักดิ์ เผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเองที่ทำหน้าที่รักษาการอยู่ มาดูแลในทุกประเด็น อำนวยความสะดวกช่วยเหลือประชาชน ในประเด็นที่ทำได้ขณะนี้เมื่อทราบแล้วว่ามีผู้เสียชีวิต 23 ราย นายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี เยียวยาการเสียชีวิต 50,000 บาท, การทำศพ 30,000 บาท, ค่าดูแลบุตรที่กำลังศึกษาอายุไม่เกิน 25 ปีอีก 50,000 บาท รวมรายละราวหนึ่งแสนบาท และยังมีกองทุนยุติธรรม ดูแลค่าเสียหายให้ผู้เสียชีวิตประมาณ 200,000 บาท และยังมีเงินเยียวยาจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงมหาดไทยอีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 300,000 บาท ตนจะเร่งดำเนินการให้ พรุ่งนี้จะมีการประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เวลา 11:00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานมีการขอใบอนุญาตการให้ทำและค้าดอกไม้เพลิงถูกต้องตามกฎหมาย และมีกระทรวงสาธารณสุขส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลผลกระทบที่อาจเกิดจากสารเคมีแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ส่วนกระทรวงกลาโหมให้ตรวจสอบการสั่งซื้อสารเคมีประกอบวัตถุระเบิด พบว่าปฏิบัติตามกฎหมายเรียบร้อยทุกอย่าง และกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตรวจสอบพบว่าสถานที่เก็บพลุแห่งนี้ ไม่ได้ขออนุญาตเป็นโรงงานจึงทำให้ไม่มีการตรวจสอบวัตถุอันตราย และความปลอดภัยในขั้นตอนการผลิต เป็นจุดอ่อนของกรณีนี้
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการประชุมกับทุกหน่วยงาน เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นทุกประเด็น รวมถึงการบูรณาการส่วนงานในการแก้ไข ดูแลไม่ให้เกิดเหตุระเบิดซ้ำซากในลักษณะนี้อีก ออกแบบแนวทางการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ จะประชุมในวันพรุ่งนี้เพื่อให้ได้ข้อสรุปและนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในวันอังคารหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่เกิดระเบิดเพราะมีสารดินปืน และโพรแทสเซียมคลอเลต จำนวนมากเกินไปใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ เผยว่า สารโพรแทสเซียมคลอเลต เป็นสารไม่สันดาบเอง แต่เป็นตัวเร่งหรือสารแคทตาไลท์ ทำให้เกิดแรงอัดสูง เป็นสารที่ต้องควบคุมปริมาณ ไม่ได้ยืนยันสาเหตุแน่ชัดเพราะอยู่ในการพิสูจน์ของตำรวจ EOD แต่ตนมองว่ากฎหมายและระเบียบทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้ ไม่สามารถควบคุมให้เกิดความปลอดภัยต่อโรงงานลักษณะนี้ในทุกประเด็น จะเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการศึกษาว่าจะต้องปรับกฎเกณฑ์อะไรบ้าง ซึ่งจะมีการประชุมบูรณาการในวันพรุ่งนี้
“เช่น การควบคุมการผลิตต่างๆ ไม่มีหน่วยงานดูแลเลย ส่วนกระทรวงกลาโหม กรมอุตสาหกรรมทหารก็ดูเพียงแค่จำนวนของวัตถุระเบิดต่างๆ แต่ต้องถามว่ามาตรการแค่นี้เพียงพอหรือไม่ อยากให้เป็นเวทีสาธารณะ ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาให้ความคิดเห็น”
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงผู้เสียชีวิตครอบครัวหนึ่ง รวม 6 รายที่มาทำงานโรงงานนี้ทั้งครอบครัว สะท้อนว่า บางครั้งประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอกับอาชีพ เราต้องแก้ไขปัญหาความยากจนด้วย และเราต้องสร้างหลักประกันให้คนทำงานอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะการทำงานในโรงงานลักษณะนี้ที่มีวัตถุระเบิด ควรมีประกันชีวิตเพราะเขามีความเสี่ยงสูงมาก
เมื่อถามว่าจะต้องมีการปรับเกณฑ์การขออนุญาตหรือไม่ เพราะโรงงานที่เกิดเหตุเคยมีใบอนุญาตแล้วเกิดระเบิดครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นไปขอใบอนุญาตใหม่ได้อีกโดยเปลี่ยนชื่อ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่าความบกพร่องของระเบียบราชการที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นได้ เราต้องดูว่าการเปลี่ยนชื่อขอใบอนุญาตทำได้หรือไม่ ตนก็ยังไม่ทราบในวันนี้ แต่จะตั้งคำถามนี้ในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ด้วย เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ ระเบียบ กฎหมาย แบบแผนของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งประเด็นประชุม 3 วาระสำคัญคือ การเยียวยา, สาเหตุ และการแก้ไขปัญหาระยะยาว
