POLITICS

UNODC ชม ‘อนุทิน’ ริเริ่มจัดประชุมปราบสแกมเมอร์ สะท้อน ‘ไทย’ มุ่งมั่นต่อต้านหลอกลวงออนไลน์

UNODC ชม ‘อนุทิน’ ริเริ่มจัดประชุมปราบสแกมเมอร์ สะท้อน ‘ไทย’ มุ่งมั่นจับมือนานาชาติต่อต้านหลอกลวงออนไลน์

วันนี้ (17 ธ.ค. 68) เดลฟีน ช้านทซ์ ผู้แทนจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCD) ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวในพิธีเปิดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพมหานคร

เดลฟีน ช้านทซ์ กล่าวยินดีที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้กับราชอาณาจักรไทย พร้อมกับชื่นชม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้นำที่ดีในการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการร่วมมือกับนานาชาติเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรม แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ ดังที่ผู้นำอาเซียนหลายประเทศได้เน้นย้ำไว้ในปฏิญญาเมื่อเร็ว ๆ นี้

การหลอกลวงออนไลน์ได้กลายเป็นแหล่งรายได้หลักขององค์กรอาชญากรรมในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราประเมินว่าความเสียหายต่อปีมีมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวก็ประเมินว่า ความสูญเสียมีมูลค่าสูงถึง 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หลายประเทศมองว่าการฉ้อโกงเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่พบบ่อยที่สุด ตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักรประเมินว่าในบางพื้นที่ของประเทศ อาชญากรรมมากกว่า 40% เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง รายงาน EUROPOL Serious Organized Crime Threat Assessment ล่าสุดระบุว่า การฉ้อโกงเป็นภาคส่วนที่ขยายตัวเร็วที่สุดในองค์กรอาชญากรรม ผลกำไรที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่บ่อนทำลายหลักนิติธรรมและการปกครองที่ดีโดยตรงเท่านั้น แต่ยังมักถูกนำไปลงทุนใหม่เพื่อขยายอุตสาหกรรมนี้ต่อไปอีกด้วย

การฉ้อโกงทางออนไลน์ ยังเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อทุกระดับชั้นของสังคม ผู้สูงอายุสูญเสียเงินออมตลอดชีวิต คนหนุ่มสาวสูญเสียรายได้ของพ่อแม่หรือถูกผลักดันให้เป็นหนี้ บริษัทและองค์กรทั้งหมดอาจตกอยู่ในความเสี่ยงจากการฉ้อโกงที่มุ่งเป้าไปที่พนักงานเพียงคนเดียว และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถาบันและภาคการเงินถูกบ่อนทำลาย ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางสังคม เราต้องตระหนักว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางการปฏิวัติครั้งใหญ่ในวิธีการทำงานขององค์กรอาชญากรรม และวิธีการที่พวกเขากำหนดเป้าหมายไปยังพลเมือง เศรษฐกิจ และสถาบันของเรา

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือ การที่กลุ่มอาชญากรรมเข้ายึดครองพื้นที่ออนไลน์อย่างรวดเร็ว กลุ่มอาชญากรเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่โลกที่เชื่อมโยงถึงกันได้มากกว่าภาคส่วนอื่น ๆ ในสังคม การฉ้อโกงทางออนไลน์สามารถมุ่งเป้าไปที่ผู้คนทั่วโลก และในทางกลับกันสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายประเทศและภูมิภาค ศูนย์กลางการฉ้อโกงดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรข้ามชาติและเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการและนายหน้าจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกในการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งมักได้รับการสนับสนุนจากการทุจริต

ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในภูมิภาคใด อาชญากรรมประเภทนี้มีลักษณะเด่นคือ การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ง่ายและรวดเร็ว ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถเข้าถึงอาชญากรรมประเภทใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการฟอกเงินและการใช้สกุลเงินดิจิทัล อุตสาหกรรมการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแนวหน้าของการพัฒนาเหล่านี้ และในภูมิภาคนี้เองที่เราเห็นแนวโน้ม 2 ประการ คือ การรวมตัวกันเป็นกลุ่มหลอกลวงขนาดใหญ่ในระดับอุตสาหกรรมในสถานที่ที่มีปัญหาด้านการปกครอง กับการดำเนินงานขนาดเล็กที่ยืดหยุ่นและไม่โจ่งแจ้งมากนัก เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้นด้วยจำนวนผู้หลอกลวงที่น้อยลง

ในหลายกรณี ผู้ที่เข้าร่วมมักจะถูกหลอกลวง ฃและถูกบังคับให้กระทำการฉ้อโกงภายใต้การข่มขู่ด้วยความรุนแรง ในขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่ปฏิบัติการฉ้อโกงจะมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายแยกแยะเหยื่อออกจากผู้กระทำผิด ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ จิตวิทยา และการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่เหยื่อได้ยากขึ้น ซึ่งต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากลุ่มที่ถูกปราบปรามจะไม่ไปรวมตัวกันใหม่ที่อื่น

ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ภายใต้ภัยคุกคามที่ซับซ้อน เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และแพร่กระจายไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากมีการลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นตราสารระหว่างประเทศฉบับแรกเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในรอบ 20 ปี และเป็นส่วนเสริมที่สำคัญของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต

เดลฟีน ช้านทซ์ หวังว่าผลลัพธ์จากการหารือ 2 วันนี้ จะนำไปสู่การประชุมสุดยอดด้านการฉ้อโกงระดับโลกที่จะจัดขึ้นในปีหน้าโดย UNODC และอินเตอร์โพล จะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรยในเดือน มี.ค.69 โดยองค์การสหประชาชาติมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศสมาชิกในการต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ จึงขอขอบคุณไทยที่ริเริ่มเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ ขอให้เราใช้โอกาสนี้เสริมสร้างความร่วมมือระดับโลกในการต่อต้านการหลอกลวงทางออนไลน์ กำหนดขั้นตอนการปราบปรามสแกมเมอร์ที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริงเพื่อการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก

Related Posts

Send this to a friend