นายกฯ หารือ เอกอัครราชทูตจีน ร่วมมือปราบสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ
นายกฯ หารือ เอกอัครราชทูตจีน ย้ำ มิตรภาพ “ไทย-จีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” พร้อมร่วมมือปราบปรามสแกมเมอร์ – อาชญากรรมข้ามชาติ ผลักดันความร่วมมือไทย – จีนทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า สินค้าเกษตร และหารือปม ชายแดนไทย – กัมพูชา เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาอธิปไตย ขณะที่ ทูตจีน ย้ำ ท่าทีเป็นกลาง สนับสนุนให้ทั้ง 2 ประเทศ ใช้กลไกหาทางออกอย่างสันติวิธี
วันนี้ (17 ต.ค. 68) เวลา 09:30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายจาง เจี้ยนเว่ย์ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้ต้อนรับเอกอัครราชทูตจีนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งมิตรภาพไทย – จีน แนบแน่นอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอด 50 ปี โดยรัฐบาลมุ่งมั่นจะผลักดันความร่วมมือให้เติบโตในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
โดยความร่วมมือกับจีนถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมในภูมิภาค สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งขอบคุณที่รัฐบาลจีนให้ความร่วมมืออันดีมาโดยตลอด และชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยทุกท่านที่มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ โดยเชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตจีนคนใหม่จะสานต่อและพัฒนาความร่วมมือในทุกด้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ด้านเอกอัครราชทูตจีนได้ฝากคำปรารถนาดี และคำอวยพรจากนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้แก่นายกรัฐมนตรี และยินดีที่วันนี้ได้มีโอกาสเข้าพบอย่างเป็นทางการ ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมีมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่สืบทอดมากว่าครึ่งศตวรรษ โดยต่างเคารพ สนับสนุน และร่วมมือกันอย่างเสมอภาค เป็นมิตรแท้ที่ประชาชนทั้งสองฝ่ายตระหนักดีว่า “ไทย-จีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” และจะยังคงสานต่อความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการประชุมคณะรัฐมนตรี การลงพื้นที่พบปะประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งการเยี่ยมพื้นที่ชายแดน เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตจีนยังกล่าวถึงการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการที่ผ่านมา ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของไทยในภูมิภาค พร้อมอวยพรให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดใหม่ประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ สร้างความมั่นคงและความผาสุกให้แก่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญร่วมกัน คือ ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้การสนับสนุนด้านการค้าการลงทุนมาโดยตลอด โดยเฉพาะการพิจารณานำเข้าข้าวจากไทย ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน รวมทั้งยังช่วยสร้างความสมดุลทางการค้า ทำให้ราคาข้าวอยู่ในระดับที่เป็นธรรมทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขาย และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรไทยที่จะมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น ขณะที่เอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่า จีนให้ความสำคัญต่อการนำเข้าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงจากไทย โดยเฉพาะข้าวและผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดจีน และพร้อมประสานงานร่วมกับหน่วยงานจีนเพื่อผลักดันให้การนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และโลจิสติกส์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การเชื่อมโยงระบบคมนาคมระหว่างไทย – จีน – ลาว จะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเอกอัครราชทูตจีนเชื่อมั่นว่าการเชื่อมโยงดังกล่าวจะเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งจะช่วยยกระดับการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนในอนาคต
ด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมความร่วมมือกับจีนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคอย่างยั่งยืน ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนยืนยันว่า ฝ่ายจีนพร้อมสนับสนุนไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะด้าน เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว พลังงานใหม่ และยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่ยุคใหม่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านความมั่นคง และอาชญากรรมข้ามชาติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและกลุ่มสแกมเมอร์ในภูมิภาค ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชน พร้อมยืนยันว่าไทยพร้อมร่วมมือกับทางการจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง ด้านเอกอัครราชทูตจีนเห็นพ้องและพร้อม เสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทยในทุกมิติ โดยยินดีจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานไทย เพื่อป้องกัน ปราบปราม และยับยั้งปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านความร่วมมือระดับภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความร่วมมือ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยพร้อมทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong–Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 5 ในช่วงเดือนธันวาคม 2568 นี้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน และพร้อมร่วมมือในกรอบอาเซียน เพื่อสร้างความเข้าใจและรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ซึ่งไทยยึดมั่นในหลักสันติวิธี และจะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ
ขณะที่ เอกอัครราชทูตจีน กล่าวว่า จีนมีท่าทีที่เป็นกลางต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยสนับสนุนให้ทั้งสองประเทศใช้กลไกที่มีอยู่แล้วในการเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างสันติ เพื่อรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค













