‘มงคลกิตติ์’ ไม่เห็นด้วยดำเนินคดี ‘โน้ส อุดม’ แนะเอา ‘พล.อ.ประวิตร’ เป็นตัวอย่าง

‘มงคลกิตติ์’ ไม่เห็นด้วยลูกสมุนนายกฯ ดำเนินคดี ‘โน้ส อุดม’ แนะเอา ‘พล.อ.ประวิตร’ เป็นตัวอย่าง ส่วนกรณีน้ำท่วม จ.สิงห์บุรี กว่า 80% วอนรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ

วันนี้ (17 ต.ค. 65) ที่อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เผยไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปดำเนินคดี กับนายอุดม แต้พานิช หรือโน้ส “ฟังแล้วคำพูดไม่รุนแรงเท่าใด หรือจะแบบ แอ๊ด คาราบาว ที่พูดถึงผู้ว่า สุพรรณบุรี เลย และฝ่ายค้านพูดในสภาแรงกว่านี้อีก 10 เท่า ถ้าท่านจะเป็นตัวแทนทำงานให้พี่น้องประชาชนต่อในปี 2566 ก็ไม่ควรฟ้อง ฟังไปแล้วก็ปรับปรุงแก้ไขถ้าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ให้โฆษกรัฐบาลชี้แจง ประชาชนมีวิจารณญาณ อะไรจริงไม่จริง ถ้าจะทำการเมืองต่อ ฟังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากๆ อนาคตท่านนายกรัฐมนตรีจะสดใส” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

ส่วนกรณี ที่นายมงคลกิตติ์ลงพื้นที่ดูน้ำท่วม ให้กำลังใจประชาชน ที่ ต.แม่ลา อ.บางระจัน ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ภาพรวม ทั้งจ.สิงห์บุรี มีน้ำท่วมทุกอำเภอ เดือดร้อนเกือบทุกตำบล น้ำท่วมลึก 0.5-3 เมตร พื้นที่ จ.สิงห์บุรี มีพื้นที่ 822.5 ตร.กม. หรือ 514,062.5 ไร่ ถ้าน้ำท่วมสูง 1 เมตร เต็มพื้นที่ โดยเฉลี่ย 822.5 ล้าน ลบ.ม. หรือ 85.6% ของความจุน้ำทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันน่าจะปริมาณน้ำ น่าจะ 3 เท่าของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

นายมงคลกิตติ์ ยังระบุต่อว่า อยากให้รัฐบาลเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือ เรื่องถุงยังชีพให้ถุงยังชีพแบบครอบครัวละ 1 ชุด กินได้ 3-4 วัน มีงบเพียง 20%-30% ไม่ครบทุกครอบครัว ลำพัง อบต. เบิกงบปี 2566 มาซื้อถุงยังชีพ จะได้แค่รอบเดียว ทุกครอบครัวกินได้ไม่เกิน 3 วัน

ต่อมาเดินทางมาดูประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่างาม และตำบลชีน้ำร้าย ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจนไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้ จึงเรียกร้องขอให้กรมชลประทาน หรือผู้มีอำนาจ เปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ปล่อยน้ำเข้าคลองบางโฉมศรี เพื่อให้ระดับน้ำลดลงเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่เดือดร้อนลงบ้าง เพราะบ้านถูกน้ำท่วมถึงชั้นสองแล้ว ส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี และประชาชนที่พักอาศัยอยู่บนถนนก็ยังถูกน้ำเอ่อมาท่วมอีก และยังขาดห้องน้ำ-ห้องส้วม

ขณะเดียวกันก็มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่อยู่ท้ายประตูบางโฉมศรี ก็ได้เดินทางมาและขอเวลาอีกประมาณ 1 เดือน เพื่อเก็บเกี่ยวข้าวในนาข้าวก่อน ประการสำคัญที่คาดว่า ชลประทาน ไม่ยอมปล่อยน้ำเพราะเกรงว่า น้ำจะท่วม จังหวัดสิงห์บุรี อีกฝั่งนึงและเข้าตัวจังหวัดลพบุรี เหมือนสมัยน้ำท่วมปี 2554 ตรงจุดนี้รัฐบาลควรเร่งแก้ไขด่วน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ (16 ต.ค. 65) ผมและพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ลงเดินทางมาเยี่ยม และให้กำลังใจ ดูพื้นที่น้ำท่วมเสียหาย บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้นเข้ามาในชุมชนสุเหร่า ม.10 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ภาพรวมน้ำล้นท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำเจ้าพระยา สูง 0.2-1.4 เมตร กินเวลากว่า 2 เดือนเศษ ประชาชน หมู่ 6,10 ท่วม 100% และ หมู่ 1-5,7-9 ท่วมบางส่วน เดือดร้อนกว่า 1,200 หลังคา กว่า 5,000 คน จากประชาชนทั้งตำบลกว่า 20,000 คน ในสัปดาห์หน้า นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ จะใช้งบปี 66 บางส่วน มาซื้อถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชนร่วมกับภาคเอกชนชาวมุสลิม ถุงยังชีพ 1 ถุง กินได้ 1 ครอบครัว 2-3 วันก็หมด ซึ่งตัวแทนประชาชนฝากบอกถ้ารัฐบาลไม่ช่วยอะไรเลยในช่วงนี้ให้ประชาชนทนเอา ก็ขอให้รัฐบาลเยียวยาครอบครัวละ 30,000 บาท รวมทั้งค่าขาดรายได้ ซ่อมบ้าน ทนอยู่กับน้ำ อยากให้รัฐบาลเร่งชดเชยหรือเยียวยาเลยโดยด่วน

นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวต่อว่า ส่วนเขื่อนกั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดแนวยังสร้างไม่เสร็จ กทม.-นนทบุรี-ปทุมธานี แต่เท่าที่ดูปีนี้อีกแค่ 30 เซ็นติเมตร ก็จะล้นแล้วกับเขื่อนที่ยังสร้างไม่เสร็จ ในปี2566 แม้สร้างเสร็จก็จะล้นอีก ดังนั้นรัฐบาลควรเสริมความสูงอีก 1.5-2 เมตร เพิ่มความกว้างฐานรากให้เข็มแข็ง จะได้ใช้สักอีก 10 ปี เพราะน้ำทะเลหนุ่นสูงขึ้นทุกปี แผ่นดินก็ทรุดลงปีละ 1.5-2 เซ็นติเมตร เพราะเราต้องอยู่กับน้ำทุกปี

“วันก่อนเห็น นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่มาก็ยังไม่เห็นช่วยอะไรได้มากนัก ปล่อยท้องถิ่น-ประชาชนแบบให้ช่วยตัวเองและอดทน ยังไงก็ช่วยเร่งอนุมัติงบกลางภาษีของประชาชนมาให้ด้วยแบบด่วน อย่าให้เหมือนกับคำพูดของ โน๊ส อุดม บอกว่า ทำใจ ทำใจ ทำใจ ซึ่งผมไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น” นายมงคลกิตติ์ กล่าว