POLITICS

สภาฯ ลุยถกร่างงบประมาณปี 66 วาระ 2 กมธ. เผยตัดงบไปกว่า 7 พันล้าน

สภาฯ ลุยถกร่างงบประมาณปี 66 วาระ 2 กมธ. เผยตัดงบไปกว่า 7 พันล้าน ย้ำสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ด้านเสียงข้างน้อยพร้อมใจลุกขอปรับลดอีก 5-6% ซัดโครงการไม่ตอบโจทย์-ขาดความพร้อม ‘ไอติม’ ชำแหละเบี้ยหัวแตก ขาดภาพใหญ่ เน้นแก้ระยะสั้น กระจุกตัวบางจังหวัด

วันนี้ (17 ส.ค. 65) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 17 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ในวาระที่ 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งย้ำว่า เป็นร่าง พ.ร.บ. ฉบับสุดท้ายในสมัยประชุมของสภานี้แล้ว และเป็นกฏหมายในความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง จึงขอให้ตั้งใจรักษาองค์ประชุมให้ดี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2566 วงเงิน 3.185 ล้านบาท แถลงรายงานการพิจารณาว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้เริ่มพิจารณาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2565 จนแล้วเสร็จในวันที่ 9 ส.ค. 2565 โดยพิจารณารายละเอียดงบประมาณของทั้ง 734 หน่วยรับงบประมาณ คำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณไปทั้งหมด 7,644,243,800 บาทถ้วน เช่น รายการที่สามารถปรับลดลงเพื่อความประหยัด รายการที่มีผลการดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดคาดว่าไม่สามารถใช้ได้ทันปีงบประมาณ และ รายการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน หรือที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ตลอดจนรายการที่สามารถใช้ทุนจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่งบกลางได้

เมื่อพิจารณาถึงมาตรา 4 ประธานฯ แจ้งว่า มีกรรมาธิการเสียงข้างน้อยขอสงวนความเห็น และมีผู้แปรญัตติกว่าร้อยคน โดยเริ่มที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการผู้สงวนความเห็น ขออภิปรายต่อที่ประชุมให้พิจารณาปรับลดงบประมาณของประเทศลง 5% เพราะเชื่อว่าการจัดสรรงบประมาณมีปัญหา เนื่องจากไม่มองภาพกว้างของคนทั้งประเทศเพื่อกระจายงบประมาณไปสู่จังหวัดต่างๆ อย่างเป็นธรรม

นายพริษฐ์ ชี้ให้เห็นว่า งบประมาณมีการกระจุกตัวอยู่ตามจังหวัดต่างๆ อย่างชัดเจน โดย 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุดรวมกันเป็นเฉลี่ย 20-30% ของประเทศ และมีข้อสังเกตว่าจังหวัดที่โครงการบำรุงรักษาถนนหนทาง มีสัดส่วนของ ส.ส. แบบแบ่งเขตในจังหวัด อยู่สังกัดพรรคการเมืองเดียวกับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ เช่น พรรคภูมิใจไทยที่รับผิดชอบกระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณยังมีปัญหาคือไม่มองภาพใหญ่ ในโครงการทั้งหมด 2,569 โครงการ มีการแบ่งเป็นเบี้ยหัวแตก หรือโครงการขนาดเล็กงบประมาณน้อยกว่า 100 ล้านบาทกว่า 1,825 โครงการ หรือคิดเป็น 71% ของโครงการทั้งหมด จึงไม่บ่งบอกถึงปัญหาสำคัญเร่งด่วนซึ่งภาพรวมของประเทศยังเผชิญอยู่ อีกทั้งไม่มองภาพไกล คือเน้นแก้ปัญหาในระยะสั้นมากกว่าระยะยาว เช่น ปัญหาสังคมสูงวัย และปัญหาภาวะโลกรวน ซึ่งยังไม่มีงบประมาณจัดสรรมาแก้ไขส่วนนี้น้อยเกินควร

นายพริษฐ์ ยังย้ำถึงปัญหาการจัดสรรงบประมาณแบบไม่มองภาพรวม คือจัดงบแบบต่างหน่วยงานต่างแยกกัน แม้จะมีพันธกิจคล้ายกัน ก็ยังแยกกันบริหาร อาจส่งผลให้ดำเนินการอย่างซ้ำซ้อนกันได้ง่าย ทั้งในระดับต่างกระทรวงหรือภายในกระทรวงเดียวกัน หากรัฐบาลยังคงจัดสรรงบประมาณโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ อาจส่งผลต่อประเทศในภาพรวมได้

จากนั้น ทั้งกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง อาทิ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นางผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาฯ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส. ลำพูน พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส. ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และ พล.ต.อ. ทวี สอดส่อง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ โดยส่วนใหญ่เสนอให้ปรับลดวงเงินงบประมาณในภาพรวมลง ราว 5-6% เนื่องจากไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ โครงการต่างๆ ที่ตั้งงบไว้ยังไม่มีความพร้อม และการจัดสรรงบไม่สมเหตุสมผล พร้อมเสนอให้นำงบส่วนที่ปรับลดไปใช้ในส่วนที่จำเป็น

Related Posts

Send this to a friend