‘ทักษิณ’ ชี้ ปัญหาการเมืองหนักกว่าเศรษฐกิจ ยัน ไม่มีดีลลับกลับไทย
‘ทักษิณ’ ชี้ ปัญหาการเมืองหนักกว่าเศรษฐกิจ เพราะทำนายไม่ได้ จิตใจมนุษย์เต็มไปด้วยกิเลส – ความโลภ ยืนยัน ดีลลับกลับบ้านไม่มีจริง กลับมาตามระบบ ส่วนลูกสาว ถ้าอาสาทำงานแล้ว เขาไม่ให้ทำต่อก็กลับไปเลี้ยงลูก ก็เท่านั้น
วันนี้ (17 ก.ค. 68) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ฟังหูไว้หู” ของสำนักข่าวไทย โดยมีนายวีระ ธีรภัทร และ น.ส.ชุติมา พึ่งความสุข เป็นผู้ดำเนินรายการสด ในงาน “ปลดล็อคอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” (Unlocking Thailand’s Future) โดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยนายทักษิณ ตอบคำถามถึงประเด็นปัญหาการเมืองหรือปัญหาเศรษฐกิจหนักหนากว่ากันว่า ปัญหาเศรษฐกิจคาดการณ์ได้ อาจต้องใช้เวลา แต่ปัญหาการเมือง ทำนายยาก จิตใจมนุษย์เต็มไปด้วยความโลภ กิเลส เป็นสิ่งที่เดาได้ยาก ยิ่งกว่าเศรษฐกิจที่เป็นไปตามภาวะของโลก ที่คาดเดาได้
ส่วนดีลลับมีจริงหรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มีหรอก มีการสร้างมาเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น ไม่มีดีลอะไรเลย แต่ดีลที่แน่นอนคือดีลกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
เมื่อพิธีกรถามย้ำว่า ในตอนที่ตัดสินใจในปี 2566 ทุกคนเชื่อว่าต้องมี อย่างน้อยอะไรสักอย่างให้เกิดความมั่นใจ นายทักษิณ กล่าวว่า ทางการเมืองไม่มี ไม่มีดีลการเมืองกับใครเลย กลับมาตามระบบ และทูลขอพระราชทานพระเมตตา ซึ่งก็ได้รับพระราชทาน แค่นั้นเอง
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลนี้อยากเข้ามาทำธุรการกับธุรกิจ สามารถอยู่ได้สบาย ตลอด 4 ปี แต่เราอยากทำงานแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง
เมื่อพิธีกรถามว่า สถานการณ์ของท่านไม่ได้ดีไปกว่าสถานการณ์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ศาลอาญา นัดพิจารณาคดีมาตรา 112 นายทักษิณ เผยว่า ไม่หรอก ตนขึ้นศาลเอง ตนรู้ว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ขณะที่พยาน อะไรก็ไม่รู้ และตนได้ถามพนักงานสอบสวน ถ้าวันนั้นไม่ถูกกดดัน พยานหลักฐานแค่นี้ จะสั่งฟ้องตนหรือไม่ พนักงานสอบสวนก็ตอบว่า อย่าว่าเรื่องสั่งฟ้องเลย รับคดี ก็ไม่รับ เราเคารพศาล สิ่งที่พูดเป็นการเล่าให้ฟัง ว่าเรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน
“ตนผ่านการเมืองมา 51 ปี ลูกสาวตน อาสา เขาตามตนมาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ หาเสียงด้วยกันตลอด เพราะฉะนั้นความอยากใกล้ชิด ช่วยเหลือชาวบ้าน มันอยู่ใน DNA ซึ่งเมื่ออาสาแล้ว เขาให้ทำก็ทำเต็มที่ แต่ถ้าเขาไม่ให้ทำก็กลับไปเลี้ยงลูกต่อไปเท่านั้น” นายทักษิณ กล่าว
พิธีกรถามอีกว่า คนนอกมองทำไมท่านต้องมามายุ่งกับการเมือง นายทักษิณ ระบุว่า ประเทศไทยปัญหาเยอะ และซับซ้อน ถ้าอ่านพระบรมราชโองการลดโทษให้ตน ตนต้องรับใส่เกล้า แล้วจะอยู่เฉยโดยไม่สนใจปัญหาบ้านเมือง ถือว่าไม่ถูกต้อง












