POLITICS

‘กมธ.ความมั่นคงฯ‘ รับหนังสือภาคประชาสังคม จี้ รัฐเร่งหาทางออกให้ผู้หนีภัยสงคราม

‘กมธ.ความมั่นคงฯ‘ รับหนังสือเรียกร้อง ’ภาคประชาสังคมชายแดนและเครือข่าย‘ จี้ รัฐเร่งหาทางออกให้ผู้หนีภัยสงคราม หลังงบช่วยเหลือถูกตัด ชี้ เสนอเปิดทางสู่ระบบแรงงานไทยอย่างเป็นธรรม-ยั่งยืน

วันนี้ (17 ก.ค. 68) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ (กมธ.) พร้อมตัวแทนคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คณะกรรมาธิการการแรงงาน คณะกรรมาธิการกิจการเด็กเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการกลุ่มชาติติพันธ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ และคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ เข้ารับหนังสือจากภาคประชาสังคมชายแดนและเครือข่าย กรณีขอให้พิจารณา ให้โอกาสผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราวได้ออกมาเป็นทรัพยากรแรงงานที่มีคุณภาพของสังคมไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้เรารับหนังสือ ซึ่งเป็นหลักสำคัญ โดยจะเป็นในเรื่องของการหนีภัยการสู้รบ โดยเฉพาะในพื้นที่พักพิงชั่วคราว และอย่างที่เราทราบหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของนโยบายของทางการสหรัฐอเมริกาซึ่งก็ได้เกิดผลกระทบอย่างมากในเรื่องของการดูแลผู้หนีภัยการสู้รบ ในบริเวณพื้นที่พักพิงชั่วคราว หากต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาสำหรับพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวเขาอยู่กันมานาน ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในพื้นที่เมื่อมีการตัดงบประมาณในการสนับสนุนก็เกิดข้อน่ากังวลหลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการดูแล หรือการจัดการ รวมถึงมีข้อกังวลไปถึงขณะที่คนเหล่านี้ไม่สามารถอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวได้อีกต่อไป

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ กมธ.ความมั่นคงฯ จะมีการพิจารณาเรื่องนี้เช่นเดียวกันโดยได้มีการเชิญ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เพื่อมาพิจารณาเรื่องนี้ โดยย้ำว่าที่ผ่านมา กมธ.ได้เคยพิจารณาเรื่องนี้มาแล้ว และส่งข้อเสนอไปยังหน่วยงานต่าง ๆ แต่ยังจำเป็นต้องมีการประชุมต่อเนื่องเพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่นำไปใช้ได้จริง

ตัวแทนจากภาคประชาสังคม กล่าวว่า เราภาคประชาสังคมพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาและเครือข่ายเชื่อว่าเมื่อมนุษย์มีศักยภาพและความประสงค์ที่จะรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมการบริหารการจัดการเพื่อจัดระเบียบการเปลี่ยนผ่านจากเงื่อนไขการพึ่งพาเดิมจึงมีความจำเป็น เพราะล่าสุดมีประกาศองค์กรมนุษยธรรมว่าความช่วยเหลือด้านการบริการสุขภาพในพื้นที่พักพิง 7 แห่ง และด้านอาหารในทุกแห่งจะต้องยุติลงหลังวันที่ 31 ก.ค. 68 นี้ เราจึงเห็นความจำเป็นที่จะนำเสนอข้อเสนอแนะจากการศึกษาข้อมูล และความคิดเห็นจากทั้งผู้หนีภัยการสู้รบ เจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่น ชุมชนท้องถิ่น องค์กรเอกชน ตลอดจนภาคธุรกิจชายแดนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้ท่านช่วยพิจารณา และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงได้ต่อไป

Related Posts

Send this to a friend