POLITICS

‘รังสิมันต์‘ ยืนยัน ต้องการเปิดไต่สวน หลังศาลนัดวินิจฉัยคดียุบพรรค 7 ส.ค. นี้

‘รังสิมันต์‘ ยืนยัน ต้องการเปิดไต่สวน หลังศาลนัดวินิจฉัยคดียุบพรรค 7 ส.ค. นี้ ยก ‘สุรพล’ เป็นพยานปากเอก หวัง ได้ความยุติธรรม

วันนี้ (17 ก.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังศาลรัฐธรรมนูญ ยุติการไต่สวนคดียุบพรรคก้าวไกล และนัดแถลงด้วยวาจาประชุมปรึกษาหารือและลงมติในวันที่ 7 ส.ค. 67 เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.30 น. มีความกังวลหรือไม่ ว่า พรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาตลอดคือการเปิดการไต่สวน เพื่อจะนำไปสู่ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล ที่เข้าสู่การพิจารณาของศาล และนำไปสู่คดีนี้ให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างไรในพยานหลักฐาน และเรามีข้อโต้แย้งอย่างไร หลังไปตรวจพยานมา และพบว่ามีกระบวนการเร่งรัดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้พรรคไม่มีสิทธิต่อสู้คดีอย่างไร เราแถลงแนวทางการต่อสู้ชัดเจนแล้ว แต่วันนี้ต้องบอกตรง ๆ ว่า การสู้คดีของเราในการนำพยานหลักฐานไปสู่การพิจารณาของศาล คงทำไม่ได้ และการต่อสู้คดีคงทำได้ยากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถบอกได้ว่าผลการวินิจฉัยของศาลวันที่ 7 ส.ค. นี้ จะเป็นอย่างไร แต่ก็หวังว่า ผลการวินิจฉัยจะสร้างความยุติธรรมให้พรรคก้าวไกลเช่นกัน

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ได้ดูว่าฉุกละหุกหรือไม่ แต่เราให้ความสำคัญกับกระบวนการมากกว่า พยานปากสำคัญของพรรคก้าวไกล อย่าง ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ กกต. คิดว่าพยานแบบนี้ ไม่สามารถมองข้ามได้เลย จึงอยากให้กระบวนการเดินไปโดยรับฟังทุกฝ่ายโดยละเอียด แต่เมื่อกระบวนการไม่เป็นไปอย่างที่เราหวัง คงต้องกลับไปคุยกันในพรรค และแน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ได้คุย กรรมการบริหารพรรคก็ยังไม่ได้คุย

“ยืนยันว่าพรรคก้าวไกล ไม่ใด้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องการล้มล้างการปกครอง ไม่ใช่พรรคการเมืองที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายอย่างที่มีการกล่าวหา เรายืนยันว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่เคารพในระบอบประชาธิปไตย และเป็นพรรคการเมืองที่ต้องการเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตย“ นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เรามีประเด็นการแก้ไขกฎหมาย ม.112 แต่คำวินิจฉัยของศาลก่อนหน้านี้ ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ไข ม.112 ไม่ได้เลย แต่ต้องแก้ให้ถูกต้อง ซึ่งก็กระบวนการ ดังนั้น คำวินิจฉัยรอบที่แล้วก็ สั่งให้หยุดการกระทำ ตอนนี้ก็ไม่มีการกระทำอะไรเพิ่มเติม และคำวินิจฉัยวันที่ 7 ส.ค. ประชาชนเฝ้ารอ และจะสอดรับกับเหตุผลที่ยอมรับได้มากแค่ไหน

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ในวันที่ 7 ส.ค. ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการแถลงข่าว หรือการตั้งพรรคใหม่ คงต้องพูดคุยก่อน และหมายข่าวศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งออกมา และหัวหน้าพรรค คงเพิ่งทราบ และยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งไม่ช้าเกินไป คงจะมีการชี้แจงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

Related Posts

Send this to a friend