ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การชลบุรี พร้อมพวก 8 นาย เซ่นปมรีดเงินเว็บพนัน

ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การชลบุรี พร้อมพวก 8 นาย เข้าช่วยราชการ ศปก.ตร. เซ่นปม รีดเงินเว็บพนันออนไลน์ พร้อมตั้ง ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ นำทีมสืบสวนเร่งคลี่คลายคดี
วันนี้ (17 มิ.ย. 66) เวลา 10:30 น. พล.ต.ท. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีที่ผู้เสียหาย 6 ราย แจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกอีกรวม 9 คน โดยอ้างว่าถูกอุ้มเรียกรับเงินในคดีเว็บพนันออนไลน์ มูลค่ากว่า 140 ล้านบาท
พล.ต.ท.อาชยน ระบุว่า ตามที่มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกรวม 10 คน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ในกรณีที่อ้างว่าได้มีการตรวจค้นจับกุม และมีการหน่วงเหนี่ยวกักขังเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินจำนวนมาก โดยในกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. พร้อมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เข้ากำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และใกล้ชิด
โดยในขณะนี้ พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรคูคตได้รับคำร้องทุกข์ และดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวไปแล้ว รวมทั้งเพื่อไม่ให้มีความเสียหายต่อทางราชการ และเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างชัดเจนถูกต้อง ทางสำนักงานตำรวจจะได้มีการทำคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย ผู้บังคับการ และผู้ใต้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) มาช่วยราชการประจำ ส่วนปฏิบัติการส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงกว่าคดีจะเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้มีสั่งการให้แต่งตั้งคณะทำงาน โดยมีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ทำงานร่วมกับพนักงานสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาหลายราย และมีกล่าวอ้างว่ามีการเกิดเหตุในหลายท้องที่ จึงจำเป็นต้องตั้งคณะพนักงานสอบสวนเรื่องดังกล่าวขึ้นมา
อีกทั้ง ได้สั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยด่วน เพื่อพิจารณาในการดำเนินการทางวินัย หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะต้องมีการดำเนินการทางวินัยร้ายแรงโดยทันที เนื่องจากเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจเป็นอย่างยิ่ง
พล.ต.ท.อาชยน ยังยืนยันอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับจากศาลแต่อย่างใด ส่วนกรณีของพลเรือน 2 ราย ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมในขบวนการจับกุม ต้องดำเนินการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องตำรวจกลุ่มนี้อย่างไร ทำหน้าที่รับเคลียร์หรือไม่ ซึ่งจากการร้องเรียน และการดำเนินคดีของผู้เสียหาย พบว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องเพียง 8 นาย และพลเรือน 2 นายเท่านั้น หลังจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมากพอสมควร มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทางฝั่งของผู้ต้องหา และผู้ถูกกล่าวหา เพื่อหาความเชื่อมโยงในคดี
“นโยบายของผบ.ตร. ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ในเรื่องนโยบายกวาดบ้านตัวเอง ถ้าตำรวจคนไหนทำผิด ก็ต้องดำเนินคดีทุกราย ไม่มีปล่อยปะละเว้น แม้ว่าข้าราชการตำรวจจะเป็นชั้นผู้ใหญ่ก็จะต้องดำเนินการ” พล.ต.ท.อาชยนกล่าว