POLITICS

ตร.เตือน รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ หากเกิดอุบัติเหตุ คนขับยังต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (17 มิ.ย. 65) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ปัจจุบัน มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์นำเอาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาติดตั้งในรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่เป็นจำนวนมาก เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า , ระบบหยุดรถอัตโนมัติ , ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางการเดินรถ , ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามรถคันหน้า รวมถึงระบบเทคโนโลยีก้าวหน้า เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือ Autopilot

สำหรับระบบทั้งหมดนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ และลดจำนวนการเกิดอุบัติบนท้องถนน แต่ก็มีข้อคำถามจากประชาชนว่า หากรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติเกิดอุบัติเหตุ ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแจ้งว่า กฎหมายของประเทศไทยได้กำหนดผู้รับผิดชอบเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากยานพาหนะ ไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 โดยบัญญัติไว้ว่า “บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอย่างใดๆ อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า การเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง”

ดังนั้นผู้ที่ควบคุมยานพาหนะ ไม่ว่าจะมีระบบควบคุมอัตโนมัติหรือไม่ ก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอุบัติเหตุดังกล่าวมีต้นเหตุมาจากการขับขี่ของยานพาหนะคันที่ตนขับขี่ หรือควบคุมอยู่ อีกทั้ง หากเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้ที่ขับขี่หรือควบคุมรถยนต์ที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ หรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดตามกฎหมายได้ เนื่องจากตนมีหน้าที่ในการขับขี่หรือควบคุมรถยนต์คันดังกล่าว และอาจถูกดำเนินคดีในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แล้วแต่กรณี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนไปยังผู้ใช้งานรถยนต์ที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ หรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ต้องมีสติและพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น

Related Posts

Send this to a friend