POLITICS

ทนายกฤษฎางค์ เผย ราชทัณฑ์ยังไม่ให้ข้อมูลการรักษา ’บุ้ง’ ก่อนเสียชีวิต

ทนายกฤษฎางค์ เผย ราชทัณฑ์ยังไม่ให้ข้อมูลการรักษา ’บุ้ง’ ก่อนเสียชีวิต เหตุ จนท.แจ้ง การมอบอำนาจไม่ถูกต้อง พ่อ-แม่ บุ้ง ต้องมารับเอง ชี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้ข้อมูลสื่อถึงขั้นตอนการช่วยชีวิตบุ้ง ไม่ตรงกับ ‘ตะวัน’ แต่ยังไม่ขอเปิดว่าส่วนไหน

วันนี้ (17 พ.ค. 67) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวภายหลัง มอบหมายให้ทีมทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจาก พี่สาวของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง เข้าไปขอรับประวัติการรักษาย้อนหลัง 5 วัน และภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางราชทัณฑ์ โดยระบุว่า ราชทัณฑ์ยังไม่ได้มอบข้อมูลที่ขอให้ เนื่องจากการมอบอำนาจไม่ถูกต้อง ตามกฎกระทรวงต้องให้ครอบครัวที่เป็น พ่อ แม่ และพี่สาว เข้าไปรับด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่า ให้เข้ามารับได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ให้ ทั้งๆ ที่พี่สาวมอบอำนาจให้มาขอ ต้องให้พ่อแม่ของบุ้งมาเอาเอง ซึ่งพ่อของบุ้งที่เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ท่านเห็นว่า ได้รับอนุญาตแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ส่วนแม่ก็ใจสลายอยู่ พี่สาวยังคงยุ่งเรื่องงานศพ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ให้โดยอ้างเหตุผลนี้

ดังนั้น การที่เขาบอกว่าให้ แต่ไปแล้วบอกว่าไม่ให้ ตนมองว่า เป็นพิรุธ เพราะเราต้องการเอามาเป็นจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งว่า น.ส.เนติพร เสียชีวิตเพราะอะไร ไม่ได้หมายความว่าจะต้องโทษใคร

เมื่อถามว่าเป็นการประวิงเวลาหรือไม่ นายกฤษฎางค์ ระบุว่า ในเมื่อตนได้รับสัญญาจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้ว ว่าสามารถเข้าไปรับได้ แต่กลับเป็นเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร มีใครมาสั่งอธิบดีให้ไม่ให้หรือไม่ เพราะเชื่อว่าข้อมูลของแพทย์ หรือพยาบาลนั้นคงไม่มีการบิดเบือน

ส่วนกรณีที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยไทม์ไลน์วันเกิดเหตุอีกครั้งต่อสื่อมวลชน ว่า น.ส.เนติพร หมดสติไปช่วงประมาณ 06:00 น. แล้วไปถึง รพ.ธรรมศาสตร์ช่วง 09:00 น. ทนายกฤษฎางค์ กล่าวว่า สิ่งที่จะยืนยันเรื่องนี้ได้คือเอกสาร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งให้ช้าตนยิ่งไม่เชื่อ หากพูดมาแบบนี้ ขอย้ำว่าตนไม่เชื่อ และที่บอกว่า เอกสารต้องพ่อแม่เท่านั้น แต่กลับนำข้อมูลเหล่านี้ มาแถลงข่าวโดยไม่ขออนุญาตครอบครัวหรือตนในฐานะทนายความ มองว่า เป็นประเด็นที่น่าสงสัย ดังนั้น ตราบใดที่ยังไม่ให้เอกสาร ตนย้ำอีกครั้งว่า ไม่เชื่อ และขอฝากไปถึงสื่อมวลชนว่าอย่าไปเชื่อจนกว่าจะได้เห็นเอกสาร

เมื่อถามว่าทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบายขั้นตอนการช่วยชีวิต น.ส.เนติพร ตั้งแต่ล้มฟุบลงไป และมีการนำไปปั๊มหัวใจที่ห้องไอซียูข้อมูลตรงนี้ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมาจาก น.ส.ทานตะวันหรือไม่ นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า “ไม่ตรงครับ ไม่ตรง แต่ผมขอว่ายังไม่เปิด ว่าไม่ตรงส่วนไหนบ้าง เพราะอยากให้ข้อเท็จจริงที่เขาแถลงหมดสิ้นกระแสความก่อน”

ทั้งนี้ มีข้อมูลตรงบางส่วนที่ว่า ล้มฟุ่บลงไป แต่ไปรักษาตัวอย่างไร 2 ชม. ขอดูเอกสาร และ VDO ก่อน ซึ่งตอนนี้ น.ส.ทานตะวัน อยู่ในฐานะที่ลำบากเพราะว่าเป็นพยานปากสำคัญคนหนึ่ง และตอนนี้ตนไม่อยากอ้างอิงถึง น.ส.ทานตะวัน เพราะอยู่ในอาการตกใจ แต่สิ่งที่จะยืนยันได้คือวงจรปิด ซึ่งทางราชทัณฑ์เองได้แถลงต่อสื่อมวลชนแล้ว ก็ควรนำมาเปิดเผยให้เห็นกันไปเลย เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว หากกังวลจกระทบใครก็ควรเบลอหน้าไว้

นายกฤษฎางค์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นเรื่องคดีความแต่เป็นเรื่องชีวิตของเด็กคนนึง ตนให้โอกาสราชทัณฑ์เปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด เช่น รายงานแพทย์ เปิดภาพวงจรปิด แล้วค่อยมาถกกันผ่านคนกลางก็ได้

ส่วนกรณีที่ราชทัณฑ์ จะมีการเปิดห้องไอซียู และห้องพักผู้ป่วย สำหรับผู้ต้องขัง ของ รพ.ราชทัณฑ์ให้สื่อดู นายกฤษฎางค์ ระบุว่า ตนไม่ไปดู เพราะไม่รู้มีการตกแต่งสถานที่อะไรหรือไม่ และไม่ได้คิดในแง่ร้าย แต่มองว่าขนาดจะพาคนไปดูที่รักษาแล้วทำไมไม่ให้เอกสารครอบครัวของบุ้งไปเลยให้ชัดเจน

นายกฤษฎางค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตน และครอบครัวของบุ้ง ก็ไม่ได้หวังว่าจะเอาผิดใคร เพียงแค่อยากรู้ว่าลูกสาวเขา หรือน้องสาวเขา ตายเพราะอะไร ก่อนจะฝากถึงผู้บริหาร และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า เราไม่ได้ประสงค์ที่จะเอาผิดทางคดีกับใคร ไม่ต้องกลัว เราเอาความจริงมาตีแผ่ เพราะคุณเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม

Related Posts

Send this to a friend