‘พิจารณ์’ แย้มปราศรัยใหญ่ 22 เม.ย. ชวนประชาชนเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ
‘พิจารณ์’ ชู ‘พิธา’ ดาวฉายแสง คะแนนขึ้นอยู่พรรคเดียว แย้มปราศรัยใหญ่ 22 เม.ย. ชวนประชาชนเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ บอกคนรอบตัวทำไมต้องเลือก ‘ก้าวไกล’
วันนี้ (17 เม.ย. 66) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ The Reporters ระหว่างร่วมให้กำลังใจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ในการเข้ารายงานตัวตามหมายเรียกในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 116 ณ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง
นายพิจารณ์ ยืนยันว่า พรรคก้าวไกล นอกจากจะมีนโยบายในการแก้ไข ป.อ. มาตรา 112 อย่างที่มักถูกพูดถึงแล้ว ซึ่งพรรคก้าวไกลเอง เตรียมจะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพและการแสดงออกถึง 5 ฉบับด้วยกัน ซึ่งเมื่อพรรคก้าวไกลเข้าสู่อำนาจ และได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวนมากพอ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ พรรคก้าวไกลก็จะผลักดันเหมือนกับสมัยที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นอันดับ 1 ของการสำรวจคะแนนนิยมตัวบุคคลในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเครือมติชน-เดลินิวส์ นายพิจารณ์ มองว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงที่ปี่กลองการเลือกตั้งเริ่มดังชัดมากขึ้น ประชาชนโดยทั่วไปก็เริ่มหันมาสนใจเหตุบ้านการเมืองมากขึ้น เวลาเราเดินลงพื้นที่หาเสียงมาตลอด แรก ๆ ก็ยังมีประชาชนที่ยังไม่รู้จักพรรคก้าวไกล แต่พอบอกว่าเราคือ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อดีตหัวหน้าพรรคชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประชาชนก็รู้จัก
นายพิจารณ์ จึงมองว่า ประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่ได้ติดตามงานสภาฯ ไม่ได้ติดตามการเมืองเสียเท่าไร แต่เริ่มสนใจการเมืองเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง และเมื่อสื่อมวลชนทุกแขนงให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากขึ้น ทั้งการจัดดีเบตและการสัมภาษณ์ ทำให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกล เหมือนกับดาวที่พร้อมฉายแสงออกมา ให้ประชาชนได้ทำความรู้จัก เข้าใจนโยบาย อุดมการณ์ และความตั้งใจ รับรู้ถึงผลงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกล
“4 ปีที่ผ่านมา สื่อทุกแขนงก็ให้การยอมรับว่า พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านที่ดีที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมาครั้งนี้ ผมยืนยันว่า คุณพิธา และพรรคก้าวไกล จะมีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากกว่าเป็นฝ่ายค้าน ในการเป็นรัฐบาลแน่นอน” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามความเห็นต่อผลสำรวจเดียวกัน ในเรื่องคะแนนนิยมของพรรคการเมืองที่พบว่า พรรคก้าวไกล มีลำดับเป็นรองนั้น จะต้องปรับกลยุทธ์การหาเสียงอย่างไรหรือไม่ ในช่วง 30 วันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง นายพิจารณ์ ตอบว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลกำลังเร่งทุกองคาพยพเต็มที่ อย่างโพลของมติชน-เดลินิวส์ เป็นการจัดทำครั้งที่ 1 แต่หากไปดูโพลของนิด้า ซึ่งเป็นการจัดทำครั้งที่ 2 แล้วเปรียบเทียบกับครั้งแรกนั้น จะพบว่า ทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ทุกพรรคการเมืองล้วนได้คะแนนนิยมลดลง มีเพียงพรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนนิยมสูงขึ้น
นายพิจารณ์ ย้ำว่า พรรคก้าวไกล คงต้องเร่งมือที่จะสร้างการรับรู้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การเติบโตทางอัตราส่วนความนิยมนี้โตทันวันที่ 14 พ.ค. 66 อย่างในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ก็เป็นช่วงที่ประชาชนกลับมาจากการท่องเที่ยวและพักผ่อน เหลือเวลาเพียง 20 กว่าวันเท่านั้นก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลจึงจะจัดเวทีปราศรัยใหญ่ในวันที่ 22 เม.ย. 66 ณ สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนสัญจรได้สะดวก ซึ่งจะมีแกนนำพรรค อดีตเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงปัจจุบัน อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ก็จะร่วมขึ้นเวทีปราศรัยในครั้งนี้ทั้งหมดด้วย
“ถ้ารักก้าวไกล เชียร์ก้าวไกล ก็มาร่วมฟังเวทีปราศรัยในครั้งนี้ และมากไปกว่านั้น รักก้าวไกล เชียร์ก้าวไกล นอกจากฟังปราศรัย และออกไปเลือกตั้งแล้ว อยากให้เป็นหัวคะแนนธรรมชาติให้พวกเราด้วย ไปบอกคุณพ่อ คุณแม่ คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณพี่ คุณน้อง คนที่ทำงาน คนข้างบ้าน คนที่โรงเรียน แผงข้าง ๆ ต่าง ๆ ว่าทำไมต้องเลือกพรรคก้าวไกล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้าย












