POLITICS

‘ปิยบุตร’ เข้ารายงานตัว-ปฏิเสธข้อกล่าวหา ‘ณฐพร’ ฟ้อง ม.116 จัดคลับเฮาส์ยุยงปลุกปั่น

วันนี้ (17 เม.ย. 66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมทนายความ เข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน (พงส.) สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 116 ตามที่ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน มาร้องทุกข์กล่าวโทษไว้เมื่อปี 2564

นายปิยบุตร เปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน จนกระทั่งกลับจากไปหาเสียงที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็พบว่ามีหมายเรียกส่งมาที่บ้าน นำส่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 66 ซึ่งเป็นคดีที่แจ้งความร้องทุกข์ไว้ 2 ปีแล้ว โดยไม่ทราบว่าเป็นเรื่องใด แต่เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการหาเสียง จึงได้ขอเลื่อนพนักงานสอบสวนไปช่วงหลังหาเสียง แต่พนักงานสอบสวนปฏิเสธ โดยอ้างว่าผู้หาเสียงในแต่ละพรรคมีทีมงานหลายคน การที่นายปิยบุตรจะมาพบพนักงานสอบสวน คงไม่กระทบต่อการหาเสียงของพรรค ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดการหาเสียงในต่างจังหวัดออกไปเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้

นายปิยบุตร ยังมองว่า นายณฐพร เป็นนักร้องมืออาชีพ ร้องตั้งแต่ประกาศตั้งพรรคอนาคตใหม่ ร้องเข้าเป้าด้วย ร้องไปถึงยุบพรรค และอีกหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม ไม่อยากมองว่าการที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมาแจ้งข้อหาหลังผ่านมา 2 ปี มีนัยทางการเมืองหรือไม่ คงเป็นเหตุบังเอิญที่มาออกหมายเรียกช่วงที่ช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงพอดี แต่มองในแง่ดีคือพนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจอย่างเต็มที่ถึง 2 ปีเพื่อพิจารณาการออกหมายเรียก ดังนั้นก็จะรอดูว่าหลังพนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจอย่างเต็มที่แล้ว จะมีข้อความใดเข้าข่ายยุยงปลุกปั่น และหากคดีถูกยกฟ้องในชั้นอัยการและศาล ก็แสดงว่าการใช้ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนไม่ถูกต้อง

ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าหลายคดีที่ฟ้องในมาตรา 116 อัยการไม่สั่งฟ้อง หรือศาลยกฟ้องทั้งสิ้น จึงอยากเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนแต่ละ สน. นึกถึงตอนที่เรียนนิติศาสตร์ในชั้นปริญญาตรีว่า หากมีกรณีนี้ออกข้อสอบ จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งหลายคนก็คงมองออกว่าไม่ได้เข้าข่ายความผิด แต่เหตุใดเมื่อมาเป็นพนักงานสอบสวนถึงได้ออกหมายเรียกคดีนี้อย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พนักงานสอบสวนมีดุลพินิจ ไม่ใช่เป็นบุรุษไปรษณีย์ ใครมาร้องทุกข์ก็ออกหมายเรียกผู้ถูกร้องมาแจ้งข้อกล่าวหาทุกกรณี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าตำรวจมีใบสั่งมาหรือไม่ นายปิยบุตร ตอบว่า ไม่อยากมองเช่นนั้น ส่วนตัวก็เคารพพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนก็คงปฏิบัติหน้าที่

ส่วนจะมีการฟ้องกลับกลับนายณัฐพรหรือไม่ นายปิยบุตร ตอบว่า ไม่อยากจะฟ้องใคร โดยเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาท แต่หากเป็นข้อหาแจ้งความเท็จ ก็จะขอพิจารณาดูก่อน พร้อมทั้งยืนยันว่า ส่วนตัวก็เรียนกฎหมายมา มีความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นเสมอ และมั่นใจว่าทุกข้อความที่พูด ไม่เข้าข่ายข้อหายุยงปลุกปั่นแน่นอน แต่ต้องขอดูรายละเอียดที่นายณฐพรแจ้งความไว้ก่อน

ภายหลังเข้ารายงานตัวเสร็จสิ้น นายปิยบุตร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การฟ้องร้องคดีนี้เกิดขึ้นโดย นายณฐพร อ้างถึงการจัดรายการคลับเฮาส์ของ นายปิยบุตร ต่อกรณี นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เผาพระบรมฉายาลักษณ์ เข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ซึ่ง นายณฐพร จินตนาการเลยเถิดไปมากว่า นายปิยบุตร ยุยงปลุกปั่น

นายปิยบุตร ระบุว่า ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้ว และเห็นใจที่พนักงานสอบสวนต้องรับเรื่องนี้เป็นภาระ เสียเวลาเจ้าพนักงาน รกโรงรกศาล โดยที่นักร้องลงทุนต่ำ จึงคิดว่าหากพนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจก็บรรเทาเรื่องร้องเรียนแบบนี้ได้ โดยจะเตรียมพยานหลักฐานและเตรียมการชี้แจงภายใน 30 วัน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

Related Posts

Send this to a friend