POLITICS

‘วิโรจน์’ ซัด ‘เพื่อไทย’ ทำตัวเป็นนั่งร้านให้อำนาจลายพราง หลังสภาฯ คว่ำร่าง พ.ร.ป.ป.ป.ช.

‘วิโรจน์’ เดือดซัด ‘เพื่อไทย’ ทำตัวเป็นนั่งร้านให้อำนาจลายพราง หลังสภาฯ คว่ำร่าง พ.ร.ป.ป.ป.ช.

วันนี้ (17 มี.ค. 68) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีรัฐสภามีมติข้างมาก 415 เสียง ตีตกร่าง พ.ร.ป.ป.ป.ช. โอนคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของทหารไปศาลคดีทุจริตว่า กฎหมายนี้ทำกันอย่างละเมียดละไม ปราณีตที่สุด หารือกับนักนิติบัญญัติ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงสำนักกฏหมายแห่งรัฐสภา เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคจัดตั้งรัฐบาล ที่เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเสื้อแดง ที่ได้รับความอยุติธรรมภายใต้ศาลทหารว่ามีหรือไม่อย่างไร

สาระสำคัญ ของกฎหมายฉบับนี้ หากการกระทำทุจริต ปกติแล้วข้าราชการพลเรือน จะขึ้นศาลอาญาทุจริตมีเพียงทหารหรือข้าราชการกลาโหมเท่านั้น ที่ขึ้นศาลทหาร ที่ผ่านมา มีหลายคดีที่มีข้อสงสัย และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงองค์คณะพิจารณาคดีในศาลทหาร ถึงความอิสระในการพิจารณาคดี หลายกรณีทุจริตต่อแผ่นดิน ต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน

ตนเองผิดหวังอย่างมาก ต่อบทบาทของพรรคเพื่อไทยเพราะรู้ดีที่สุดว่า ศาลทหารมีความยุติธรรมมากน้อยเพียงใด และเป็นปัญหาอย่างไร เกี่ยวกับปัญหาทุจริตโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ที่ตั้งกำแพงเป็นผนังทองแดง ให้กับพรรคเพื่อไทย เหตุการณ์วันนี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีความจริงใจ ที่จะปฏิรูปบ้านเมือง ไปสู่ประชาธิปไตย ที่หลุดจากเงื้อมมือของทหารและอำนาจที่มองไม่เห็น ตนเองเสียใจอย่างมาก ไม่เคยคิดว่าคนที่สู้มาเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเสื้อแดง วันนี้จะขาดความสำนึก ขาดความตระหนักขนาดนี้ เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อไปแน่ ๆ และคนที่ต้องตอบคำถามมากที่สุด คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ประธานคณะกรรมธิการฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย

ที่ผ่านมาตนเองมั่นใจว่าถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ผนึกกำลังกัน และ สว.ฝากฝ่ายประชาธิปไตย จะสามารถทำให้ พ.ร.ป.ฉบับนี้ผ่านเป็นกฎหมายที่สำคัญทางการเมือง ยกเลิกความเป็นรัฐซ้อนรัฐของทหาร และมุมของพรรคประชาชน ก็ต้องขอดำเนินการต่อไปกับ พ.ร.บ.ที่เหลือต่อจากนี้ เรื่องนี้คิดว่าเราต้องจัดการให้ทหารกลับเข้ากรมกอง เลิกเป็นรัฐซ้อนรัฐ มีกระบวนการยุติธรรมที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตัวเองให้ได้

เมื่อถามว่า ในตอนแรกพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนเห็นตรงกัน แต่ตอนนี้กลายเป็นผิดพลาด เป็นเพราะอะไรที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย นายวิโรจน์ กล่าวว่าตนเองติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ในฐานะผู้เสนอร่าง ได้คุยกับนายเอกราชว่าท่าทีของคณะกรรมาธิการเป็นอย่างไร ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา ความจริงไม่ต้องคุยกันเยอะ เพราะพรรคเพื่อไทยมีความเป็นคนเสื้อแดงอยู่ในหัวใจ จะรู้ถึงความอยุติธรรมของศาลทหารอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ชี้ชัดว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความจริงใจที่จะเปลี่ยนผ่านให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ หลุดจากเงื้อมมือลายพราง ยังคงหงอกับอำนาจมืดลายพรางที่อยู่เบื้องหลัง

หากจะกล่าวหาแบบเกินไปคือ มีดีลอะไรบางอย่างที่จะต้องสยบยอมกับอำนาจลายพรางเพื่อให้พ่อของแพทองธาร ชินวัตร อาจจะพ่วงถึงอาได้กลับบ้านมาเสวยสุข เหตุการณ์วันนี้ชัดเจน หากทหารทำทุจริตต้องขึ้นศาลอาญาทุจริตแบบข้าราชการพลเรือน และข้าราชการการเมือง ทำไมต้องสร้างสภาวะรัฐซ้อนรัฐ สร้างระบบยุติธรรมเพื่อค้ำยันตนเอง ความเป็นรัฐซ้อนรัฐเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยยอมได้หรือ

“ต้องถามหมอชลน่าน ในฐานะประธาน กมธ.ว่ามีหน้าไปตอบเสื้อแดงหรือ มีหน้าอธิบายคนเสื้อแดงหรือ คุณอภิปรายย้อนเทปไปดูไม่อายตัวเองหรือ นี่คือการค่อย ๆ ทำเริ่มต้นจาก พ.ร.ป.ป.ป.ช.เริ่มต้นจากคดีทุจริต ประชาชนเห็นไม่ตรงกันหรือว่า ทหารทุจริตต้องขึ้นศาลอาญาทุจริต ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยกินอะไรเข้าไป กินตัวไหนมาเกิดอะไรขึ้นไม่รู้”

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า นี่เป็นร่องรอยความหวาดกลัว หากในอนาคตทหารกระทำการย่ำยีประชาชน คดโกงประเทศชาติบ้านเมือง คุณกลัวที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบตรงไปตรงมาในศาลอาญาทุจริต โดยที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นนั่งร้านให้กับอำนาจลายพราง ลืมความเสียสละ ลืมความต่อสู้ ลืมผนังทองแดงกำแพงเหล็กของประชาชนคนเสื้อแดงหมดสิ้นแล้ว วันนี้ยิ่งกว่าสะบัดสัตย์ ไม่รู้คุณคน เนรคุณเสื้อแดง ไปถามคนเสื้อแดงได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ไม่รู้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของคนเสื้อแดง เสียข้าวสุกที่คนเสื้อแดงเอามาป้อน แย่มากอดสูที่สุด

”ผมเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้ต้องการคำตอบจากณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ชลน่าน ศรีแก้ว และ สส.ที่เคยต่อสู้กับคนเสื้อแดงว่า คุณไม่รู้สึกสมเพชหรืออดสูตัวเองหรือ น่าผิดหวังมาก ไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่าวันนี้แล้ว“ นายวิโรจน์ ทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend