POLITICS

‘เศรษฐา-แพทองธาร’ ตอบสื่อต่างชาติปมจำนำข้าว

ซัดต้นตอคือรัฐประหาร ไม่หวั่นถูกสกัดซ้ำ ย้ำเป้าแลนด์สไลด์ให้ ‘เพื่อไทย’ ทำสำเร็จอีกครั้ง

วันนี้ (17 มี.ค. 66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมเวที “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นายแพทย์ชลน่าน ตอบคำถามประเด็นการจับขั้วทางการเมืองว่า พรรคเพื่อไทยเคารพประชาชน การจะตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับใครก่อนการเลือกตั้งถือเป็นกติกาสำคัญที่ต้องรักษาไว้ เพราะผลการเลือกตั้งยังไม่ออก และไม่รู้ว่าประชาชนมอบหมายความไว้วางใจให้กับใคร ดังนั้นก่อนการเลือกตั้ง จึงยังไม่ขอประกาศว่าจะจับมือกับใคร

ส่วนการประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะเปิดทั้ง 3 รายชื่อ โดยจะพิจารณาวันสุดท้ายคือวันที่ 5 เมษายน และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับตัวแทนสาขาพรรคและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด จากนั้นจะประกาศ ซึ่งหากยุบสภาวันที่ 20 มีนาคมนี้ และวันสุดท้ายที่จะรับสมัครเลือกตั้งคือวันที่ 7 เมษายน การประกาศก็จะอยู่ในช่วงวันที่ 6-7 เมษายน

ส่วนว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของพรรคอยู่บนเวทีในวันนี้ด้วยหรือไม่นั้น นายแพทย์ชลน่านหันกลับไปมองด้านหลังที่มีคณะกรรมการพรรค และว่าที่ผู้สมัครนั่งอยู่ ก่อนบอกว่า หากเป็นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยก็จะใช้ภาษากาย ก่อนย้ำว่าขอให้รอดูหลังวันที่ 5 เมษายน ส่วนจะอยู่บนเวทีวันนี้หรือไม่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและจะเป็นคำตอบให้ประเทศชาติบ้านเมืองได้ทั้ง 3 คน

ส่วนกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สมาชิกกลุ่มสามมิตร มีความชัดเจนในเรื่องการย้ายสังกัดแล้วนั้น พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวทั้งคู่ได้เมื่อใด นายแพทย์ชลน่าน ตอบว่า จากกระแสข่าวนายสมศักดิ์จะแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้ ขอให้รอฟังจากเจ้าตัว

กรณีมีกระแสข่าวว่าการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต ในวันนี้ยังไม่ใช่รายชื่ออย่างเป็นทางการเพราะยังมีรายชื่อสำรองนั้น นายแพทย์ชลน่าน ตอบว่า การสรรหาตัวผู้สมัครมีกระบวนการอยู่ และในช่วงที่ยังไม่มีการประกาศตัวอย่างเป็นทางการสามารถมีตัวสำรองได้ เพราะหากผู้สมัครไม่ทำงานหรือประชาชนไม่ยอมรับ พรรคจะกลับมาพิจารณาคัดเลือกคนที่ดีที่สุด รวมถึงให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่แม้มีประสบการณ์น้อยกว่า แต่พรรคมีเครือข่ายการทำงานที่เติมเต็มได้ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์

จากนั้น มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศตั้งคำถามว่า เนื่องจากพรรคของคุณถูกยุบมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อกีดกันไม่ให้ครอบครัวของคุณกลับมาสู่การเมืองอีก แม้พรรคเพื่อไทยจะทำคะแนนได้ดี แต่แน่ใจหรือไม่ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นางสาวแพทองธาร กล่าวตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า คุณกำลังถามเหยื่อผู้ถูกกระทำอยู่ ซึ่งไม่ใช่คนทำรัฐประหาร เรามีความหวังอย่างยิ่งว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงนำมาสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ เพราะแลนด์สไลด์จะทำให้เราแข็งแกร่งพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน แม้จะมีกระบวนการที่สกัดกั้นอยู่ก็ตาม

เมื่อถามต่อไปว่า ในอดีตมีหลายนโยบายประชานิยมของพรรคที่ไม่สำเร็จ เช่น โครงการรับจำนำข้าว ครั้งนี้จะสามารถให้คำสัญญาที่รัดกุมมากขึ้นต่อประชาชนได้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า โครงการที่ไม่สำเร็จเหล่านั้น ก็เป็นเพราะเกิดรัฐประหารเสียก่อน แต่ละนโยบายต้องใช้ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 4 ปีเต็ม กว่าจะลุล่วง ผ่านมาแล้ว 8 ปี เราได้ศึกษานโยบาย มีบุคคลมาร่วมงาน เช่น นายเศรษฐา ซึ่งมีความรู้ความสามารถ และศึกษานโยบายมามาก ครั้งนี้พรรคมีความมั่นใจในนโยบายเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อถามถึงข้อวิจารณ์ว่า ถึงพรรคเพื่อไทยจะดูเป็นพรรคหัวก้าวหน้า แต่ยังถูกมองว่ามีความเป็นพรรคครอบครัว ซึ่งยังเป็นการเมืองแบบเก่านั้น นางสาวแพทองธาร ยื่นไมค์ให้นายเศรษฐาเป็นผู้ตอบ ซึ่งนายเศรษฐาได้ผายมือไปยังว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 400 เขต พร้อมกล่าวตอบเป็นภาษาอังกฤษเช่นกันว่า คุณลองมองผู้คนเหล่านี้ นี่คือกลุ่มคนที่มีคุณภาพ พวกเขาเป็นผู้มีวิสัยทัศน์

“นี่จึงไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัว พวกเขาเป็นบุคคลที่มีประวัติดีเลิศ ได้โปรดให้ความเชื่อมั่นในตัวพวกเราด้วย” นายเศรษฐา กล่าว

จากนั้น ผู้สื่อข่าวถามนางสาวแพทองธาร มีคุณสมบัติใดที่เหมาะจะเป็นผู้นำประเทศ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า พรรคของเรามีนโยบายที่แข็งแกร่ง คุณสมบัติที่ทำให้เราเหมาะจะเป็นผู้บริหารประเทศนี้ ก็คือพรรคของเรา คณะทำงานของเรา ซึ่งเคยบริหารประเทศนี้มาได้แล้ว และเราจะทำได้อีกครั้ง ครั้งนี้เราจะทำให้คนไทยรวยขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น

“ไม่ว่าฉันจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่ ฉันเชื่อว่าเพื่อไทยคือคำตอบที่ดีที่สุดของประเทศนี้” นางสาวแพทองธาร กล่าว

สุดท้าย เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ต้องเป็นทั้งแม่คน และผู้ถูกคาดหมายจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไปพร้อมกัน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ชอบในการเป็นแม่ และจะมีลูก 2 คนในอนาคต น่าจะสนุกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ หรือไม่ ก็จะยังคงอยู่ในพรรคเพื่อรับใช้ประเทศต่อไป ไม่ว่าจะในบทบาทใด ก็จะทำให้ดีที่สุด

Related Posts

Send this to a friend