POLITICS

กมธ.ความมั่นคง เชิญหน่วยงานถกปม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” แนะบล็อกเบอร์-กลุ่มธนาคารระงับธุรกรรมทันที

วันนี้ (17 มี.ค. 65) เวลา 13.15 น. ณ อาคารรัฐสภา นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองประธานคณะ กมธ. คนที่สาม พร้อมคณะ แถลงข่าวผลการประชุมคณะ กมธ. เพื่อพิจารณาเรื่อง ปัญหาการหลอกลวงทางโทรศัพท์ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” (Call Center) ที่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีของประชาชน

โดยก่อนหน้านี้ กมธ. ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมประชุมเพื่อรับทราบสภาพปัญหาในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ สถิติ จำนวน รูปแบบ วิธีการกระทำการหลอกลวงทางโทรศัพท์ และผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งแนวนโยบาย แนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของหน่วยงาน และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตลอดจนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านนโยบาย กฎหมาย กฎ ระเบียบเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในอนาคต

ทั้งนี้ หลังจากที่คณะ กมธ. ได้รับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้ว ได้สรุปปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 ประเด็น ได้แก่

  1. ข้อมูลรั่ว อาทิ มีการนำทะเบียนบ้านออนไลน์มาเร่ขาย และการที่ข้อมูลภาครัฐถูกแฮก ทำให้ประชาชนไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลใดเป็นเท็จหรือเป็นจริง
  2. ช่องทางการสื่อสาร โดยปัจจุบันมี 2 ช่องทาง ได้แก่

1) IDD หรือ International Direct Dial ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่จะหลบหนีอยู่ต่างประเทศและจะใช้ IDD แต่สุดท้าย IDD ก็จะหมดไปเพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใส่สัญลักษณ์พิเศษเพื่อให้ประชาชนทราบว่าหมายเลขนี้มาจากต่างประเทศจึงจะทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ IDD น้อยลง

2) การสื่อสารช่องทางอื่น อาทิ Voice over IP คือการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตแล้วจะมีหมายเลขในเมืองไทยที่เป็นชุมสายที่ใช้โทรไปหาประชาชนอีกต่อหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาเพราะสามารถปลอมแปลงหมายเลขใด ๆ ก็ได้ โดยคณะ กมธ. ได้ปรึกษาหารือเพื่อหาวิธีการที่จะทำให้ประชาชนสามารถทราบว่าหมายเลขต้นทางที่โทรมาคือหมายเลขอะไร และขอให้ กสทช. ดำเนินการหาวิธีการและแนวทางแก้ปัญหา

  1. การแจ้งความ ซึ่งที่ผ่านมาจะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่รับผิดชอบซึ่งเป็นไปได้ยากและไม่สะดวก โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงว่า ปัจจุบันได้มีการเปิดให้แจ้งความทางออนไลน์แล้วซึ่งกำลังพัฒนาปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น
  2. ธุรกรรมทางการเงิน หรือการโอนเงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะ กมธ. ให้ความสนใจมาก เพราะหากสามารถระงับการโอนเงินได้อย่างทันท่วงที แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะหมดไปในที่สุด

ในการนี้ คณะ กมธ. ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขและดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่

  1. ศึกษาเทคนิคและวิธีการในการปิดกั้น (Block) หมายเลขที่คาดว่าเป็นปัญหาไม่ให้สามารถติดต่อกับประชาชนได้ หรือหาแนวทางในการแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบว่าหมายเลขเหล่านี้เป็นปัญหาต้องระวัง และกรณีที่มีการรั่วไหลของข้อมูลต้องรีบหาแนวทางแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ กรณีที่ประชาชนได้โอนเงินไปแล้ว ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันหาแนวทางในการระงับหรือชะลอการโอนเงินเหล่านั้นอย่างรวดเร็วและทันการณ์หากได้รับแจ้งจากประชาชนโดยไม่ต้องรอกระบวนการตรวจสอบตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเนื่องจากล่าช้า
  2. การแก้ไขกฎหมาย โดยการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นหากมีข้อติดขัดในเรื่องของข้อกฎหมายให้นำเสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุงกฎหมายมายังคณะ กมธ. เพื่อจะได้ร่วมผลักดันการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปยังรัฐบาลให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อระงับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชนและป้องกันปัญหาในอนาคตต่อไป

Related Posts

Send this to a friend