POLITICS

แม่แกนนำราษฎร ยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม ขอเร่งสอบเจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจโควิดยามวิกาล ด้านโฆษก ยธ.เผยตั้งกรรมการสอบแล้ว

วันนี้ (17 มี.ค. 64) เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และแม่ของแกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ประกอบด้วย แม่เพนกวิน พริษฐ์, แม่ไผ่ จตุภัทร์, แม่ไมค์ ภาณุพงศ์, แม่รุ้ง-ปนัสยา และแม่อานนท์ นำภา เข้ายื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ โดยมี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดและโฆษกกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับ

น.ส.คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า กรณีนายอานนท์ นำภา ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ถึงความไม่ปกติในเรือนจำ ซึ่งอาจมีความอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหาในยามวิกาลหลายครั้งในห้องกักโรค และมีการพยายามแยกตัวไผ่และไมค์ออกจากห้องดังกล่าว รวมถึงมีการนำกำลังของเจ้าหน้าที่ที่มากกว่าการเข้าเวรตามปกติมาถึง 10 คนในเวลาดึก จนทำให้เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย วันนี้ทั้งหมดจึงมาเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมเร่งสอบสวนกรณีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย

แม่ของไผ่ จตุภัทร์ กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปในเวลาวิกาลนั้นไม่ควรเกิดขึ้น และจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยต้องไม่ให้คนภายในเรือนจำมาเป็นคณะกรรมการ เพราะจะเกิดความไม่โปร่งใสในการสอบข้อเท็จจริง หากมีคนในเรือนจำมาร่วมด้วย ‘เราไม่ไว้วางใจ’ นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปในยามวิกาลหลายๆ ครั้งตลอดทั้งคืน ถือเป็นการกดดันทางจิตวิทยาที่ส่งผลด้านลบต่อร่างกายและจิตใจอีกด้วย

“หากจะมาชี้แจงว่าการกระทำดังกล่าวมีเหตุจำเป็น หรือเหตุสุดวิสัย แม่ไม่เห็นด้วยที่จะชี้แจ้งว่ามันจำเป็นขนาดไหน เพราะยามวิกาลไม่ควรทำอะไรทั้งสิ้น และเจ้าหน้าที่ที่เข้ามายังปิดชื่อ ยิ่งผิดปกติ”

ด้านแม่ของเพนกวิน กล่าวว่า ในการไต่สวนของศาล ทุกคนควรมีสิทธิเข้ารับฟังการไต่สวนเพื่อความโปร่งใสด้วย เพราะการไต่สวนนายอานนท์ นำภา เมื่อเช้านี้ ตนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟัง ทั้งที่ลูกของตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่ปลอดภัย การไต่สวนควรเปิดเป็นสาธารณะให้ใครก็เข้ารับฟังได้ อีกทั้งอยากร้องเรียนเรื่องสิทธิในการเข้าเยี่ยม เพราะตั้งแต่ลูกชายของตนถูกจับ ยังไม่เคยได้รับการอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเลย โดนมีข้ออ้างเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตนคิดว่าการเยี่ยมผ่านห้องเยี่ยมที่มีกระจกกั้น และการคุยกันผ่านสายโทรศัพท์คงไม่ทำให้ติดโควิดได้

ด้านนายวัลลภ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากกระทรวงยุติธรรม ให้เป็นตัวแทนของกระทรวงยุติธรรมในการรับเรื่อง และตนได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการประมวลจริยธรรม เพื่อสอบสวนถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งข้อกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติ เราได้รับการกำชับจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลให้ดี ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยต้องสอบสวนผู้ปฏิบัติ และหากต้องมีการสืบสวนเชิงลึกก็จะให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้ ขอให้สบายใจ เพราะไม่ได้ให้ผู้ที่ร่วมปฏิบัติงานและมีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมเป็นกรรมการสอบสวน ส่วนการไต่สวนของศาล คงต้องขอรับไปประสานเพราะไม่ได้เป็นส่วนงานของกระทรวงยุติธรรม โดนส่วนของคณะกรรมการของกระทรวงยุติธรรมจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมบ่ายวันนี้ทันที

Related Posts

Send this to a friend